“ธปท.” ปฎิเสธแนวคิด “ปตท.” เก็บทุนสำรองฯ ในรูปน้ำมัน แนะให้ ปตท. ซื้อดอลลาร์สหรัฐเอาไปทำเอง ย้ำบทบาท “ธปท.” มีหน้าที่หลักในการดูแลเสถียรภาพทางการเงินระหว่างประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนสูง อาจทำให้เกิดหายนะต่อประเทศ พร้อมยกบทเรียนวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ไม่ควรเอาความมั่นคงด้านพลังงานมาให้ธนาคารกลางดูแล
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ บมจ.ปตท.(PTT) เสนอแนวคิดต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ ธปท.ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเก็บเงินทุนสำรองระหว่างประเทศให้อยู่ในรูปของน้ำมันสำรองแทน เพื่อยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงด้านพลังงานนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เนื่องด้วย ธปท.มีหน้าที่หลักในการดูแลเสถียรภาพทางการเงินระหว่างประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนสูง หากราคาน้ำมันตกลงไปจะส่งผลทำให้เกิดความวิตกได้ว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยลดลง และมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงินเหมือนวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติได้
แต่ ธปท.เห็นว่า ปตท.ควรจะนำเงินบาทมาซื้อดอลลาร์สหรัฐจาก ธปท.เพื่อนำไปซื้อน้ำมันสำรองมาเก็บไว้ โดยที่ ปตท.เป็นเจ้าของน้ำมันในฐานะผู้รักษาความมั่นคงด้านพลังงาน
“กฎหมายก็มีการระบุไว้แล้วว่าให้ ธปท.ไปถือในสินทรัพย์ที่มั่นคงและมีสภาพคล่องสูง จะให้ธนาคารกลางถือน้ำมัน เกิดราคาน้ำมันมันตก ไม่ใช่ว่าจะขาดทุนอย่างเดียว แต่มันมีผลกระทบ คือ คนก็ตกใจ พอตกใจมากก็กระทบต่อเสถียรภาพในมุมกว้าง เหมือนตอนต้มยำกุ้ง ซึ่งเห็นว่าไม่ควรจะเอาความมั่นคงด้านพลังงานมาให้แบงก์ชาติดู
แต่อย่างไรก็ตาม ปตท.สามารถทำได้โดยนำเงินบาทมาซื้อดอลลาร์สหรัฐ แล้วนำไปซื้อน้ำมันมาเก็บ โดยผ่านกระทรวงการคลังก็ได้ อย่างเช่น จีน ที่ให้คลังออกพันธบัตร ซื้อดอลลาร์สหรัฐและนำเงินตราระหว่างประเทศไปซื้อกิจการ” นายประสาร กล่าว
ทั้งนี้ ปตท.ได้เสนอ คสช. ไทยควรมีการตั้งคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงด้านพลังงาน โดยงบที่จะนำมาดำเนินการนั้น ธปท.อาจนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่ปัจจุบัน ธปท.นำไปลงทุนซื้อดอลลาร์สหรัฐและทองคำมาเก็บไว้ อาจเปลี่ยนเป็นการซื้อน้ำมันแทนจากราคาน้ำมันมีมูลค่าเพิ่มขึ้น