โบกรเกอร์เปิดตลาดชิงมาร์เกตติ้ง

โบรกเกอร์เปิดศึกชิง “มาร์เกตติ้ง” 6 เดือนแรก 4 บริษัทหลักทรัพย์เปิดใหม่ “เปิดตลาด” ชอปนักการตลาดมือดีจากโบรกเกอร์ทั้งขนาดกลาง-ขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ด้านสมาคมบริษัทหลักทรัพย์เร่งแก้ปัญหา เปิดรับสมัครงานกว่า 1,500 ตำแหน่ง ออกค่าอบรม และค่าสอบไลเซนส์ให้ ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ยึดกลยุทธ์พัฒนานักวิเคราะห์ให้เก่ง มีจริยธรรมเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนให้อยู่กับบริษัท

ตลอดปี 2556 มีบริษัทหลักทรัพย์เปิดใหม่ 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.APPLE : บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ 2.AWS : บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ 3.AEC : บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี และ 4.LH : บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้าย “มาร์เกตติ้ง” หรือเจ้าหน้าที่การตลาดครั้งใหญ่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่การตลาดเป็นกลุ่มพนักงานที่ “สร้างรายได้” ให้แก่บริษัท ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ใหม่ไม่กล้าลงทุนซื้อตัวนักวิเคราะห์ระดับ “แม่เหล็ก” ให้ย้ายมาอยู่กับตน จึงใช้วิธีดึงนักวิเคราะห์ฝึกหัดมาสร้างสมประสบการณ์ไปพร้อมกับตัวบริษัท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ว่า ครึ่งแรกปี 2557 ปรากฏว่า บริษัทหลักทรัพย์เปิดใหม่ดึงนักการตลาดส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวในกลุ่มนักการตลาด ดังนี้ 1.APPLE ในครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 210 คนเพิ่มขึ้น 202 คน จากปี 2556 ที่มีเพียง 8 คน 2.AWS เอเชีย เวลท์ ในครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 184 คน เพิ่มขึ้น 163 คนจากทั้งปี 2556 ที่มีเพียง 21 คน 3.AEC ในครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 209 คน เพิ่มขึ้น 137 คน จากทั้งปี 2556 ที่มีนักการตลาด 72 คน และ 4.AIRA ในครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 149 คน เพิ่มขึ้น 23 คน จากปี 2556 ที่มีนักการตลาด 126 คน

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ที่จำนวนนักการตลาดลดลงเป็นอย่างมาก 5 อันดับ ประกอบด้วย 1.CGS : บล.คันทรี่ กรุ๊ป ครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 498 คน ลดลงถึง 148 คน จากทั้งปี 2556 ซึ่งมีนักการตลาดถึง 646 คน 2.FSS : บล. ฟินันเซีย ไซรัส ครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 587 คน ลดลง 70 คน จากทั้งปี 2556 ที่มี 657 คน 3.KGI : บล. เคจีไอ ครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 404 คน ลดลง 49 คน จากทั้งปี 2556 ที่มี 453 คน 4.GLOBEX : บล.โกลเบล็ก ครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 265 คน ลดลง 46 คนจากทั้งปี 2556 ที่มี 311 คน และ 5.CNS : บล.โนมูระ พัฒนสิน ครึ่งแรกของปี 2557 มีนักการตลาดทั้งสิ้น 370 คน ลดลง 44 คน จากทั้งงปี 2556 ที่มี 414 คน

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์เกิดใหม่เน้นการดึงนักการตลาดมากกว่านักวิเคราะห์ เนื่องจากนักการตลาดเป็นส่วนงานที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัท ขณะที่นักวิเคราะห์ที่มีชื่อ เป็นที่น่าเชื่อถือของนักลงทุนไม่ค่อยมีการเคลื่อนย้าย บริษัทหลักทรัพย์เปิดใหม่จึงดึงนักวิเคราะห์ฝึกหัดไป

“การแข่งขันในธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์น่าจะเน้นไปที่การสร้างรายได้มากกว่าการสร้างรายจ่าย ดังนั้น นักการตลาดจึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทุกบริษัทต้องการ ส่วนนักวิเคราะห์โดยหลักแล้วไม่นิยมย้ายบริษัทหากย้ายก็จะมุ่งเน้นไปยังบริษัทขนาดใหญ่ ไม่นิยมย้ายไปบริษัทเล็ก” นายประกิต กล่าว

ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวถึงกลยุทธ์การดึงนักลงทุนให้ยังคงเข้ามาซื้อขายกับบริษัทว่า ทางบริษัทเน้นไปที่การฝึกนักวิเคราะห์ให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยการให้นักวิเคราะห์อาวุโสเป็นที่ปรึกษา และสอนเทคนิคการวิเคราะห์ให้แก่รุ่นน้องอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับนักวิเคราะห์การให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง มีคุณภาพ และเป็นไปตามจรรยาบรรณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการลงทุนของนักลงทุนมีความเสี่ยงทั้งได้เงิน และเสียเงิน ดังนั้น องค์ความรู้ต้องได้รับการถ่ายทอด ฝึกฝนพัฒนาตนเองจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงแต่ละท่านใช้เวลาสะสมประสบการณ์มากกว่า 20 ปีทุกท่าน”

ด้านนางภัทธิรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคม บริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ทราบถึงปัญหาการขาดแคลนนักการตลาดเป็นอย่างดี โดยแต่ละปีบริษัทหลักทรัพย์ต้องการเจ้าหน้าที่การตลาดเพิ่มเฉลี่ยปีละ 300-500 คน แต่สมาคมฯ สามารถผลิตบุคลากรได้เพียงรุ่นละ 200 คนเท่านั้น ซึ่งสมาคมฯ พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดรับสมัครงานกว่า 1,500 ตำแหน่ง ส่งเสริม และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมงานในธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ด้วยการฝึกอบรม และส่งเข้าสอบไลเซนส์ฟรี

“เราเปิดรับสมัครคนที่สนใจ คือ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเงิน ขอให้เป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานจากที่อื่นมา เพราะประสบการณ์การทำงานจะช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถต่อยอดได้เร็วกว่าคนที่ไม่เคยทำงานมาก่อน แต่หากมีความรู้พื้นฐานด้านการเงินก็จะเป็นการดีต่อผู้เข้ารับการอบรมเอง ทั้งนี้ สมาคมฯ ยินดีอบรมให้โดยต่อรุ่นใช้เวลา 7-10 วัน แต่ผู้เข้ารับการอบรมต้องไปฝึกปฏิบัติจริงกับบริษัทต้นสังกัดก่อนสอบ 6 เดือน” นางภัทธิรา กล่าว