ปัจจัยขับเคลื่อนการลงทุนยังไม่ชัดเจน กังวลเมกะโปรเจกต์อาจเป็นภาระรัฐบาลชุดต่อไป

หุ้นปิดลบ 0.83 จุด โบรกฯ ระบุดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากในช่วงสั้น ปัจจัยขับเคลื่อนการลงทุนยังไม่ชัดเจน หุ้นพลังงานโดดเด่น เพราะเก็งกำไรเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น จากความรุนแรงในอิรัก กลุ่มเมกะโปรเจกต์ยังไม่มีความชัดเจน เพราะอาจเป็นภาระต่อรัฐบาลชุดใหม่

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 มิ.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,471.02 จุด ลดลง 0.83 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.06% มูลค่าการซื้อขาย 46,146.97 จุด ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนวันนี้ ต่างชาติขาย 753 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อ 1.2 พันล้าน สถาบันขาย 591 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อ 60 ล้านบาท

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากในช่วงสั้นปัจจัยขับเคลื่อนการลงทุนทยังไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยบวก หรือปัจจัยลบ โดยเฉพาะปัจจัยด้านการผลักดันเศรษฐกิจในประเทศ คงยังต้องติดตามว่าจะไปในทิศทางใด ซึ่งหากมาดูกันเป็นรายกลุ่มนั้น ในกลุ่มพลังงานค่อนข้างโดดเด่นในช่วงนี้ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากปัญหาความรุนแรงในอิรัก

ด้านกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และกลุ่มสื่อสาร วันนี้มีแรงขายออกมา คาดว่าเป็นเพียงแค่แรงขายทำกำไร ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม ในเรื่องของแหล่งที่มาของเงินทุน เพื่อที่จะไม่ให้เป็นภาระมากเกินไปของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หากไม่มีความชัดเจนต่อประเด็นดังกล่าว

นอกจากนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิม และลดวงเงินมาตราการ QE ตามแผนการเดิมที่วางไว้ ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเด็น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนมากนัก

สำหรับแนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ คาดว่าหุ้นไทยจะแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ากระทบการลงทุนในช่วงสั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวยังมีปัจจัยบวกรออยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Window dressing การเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2557 และมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง ที่คาดว่าจะมีการปรับประมาณการตัวเลขต่างๆ ดีขึ้น ด้านกลยุทธ์ แนะเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร-สื่อสาร ที่อ่อนตัวลงก่อนหน้านี้ โดยประเมินแนวรับ 1,463 จุด แนวต้าน 1,478 จุด