หุ้นเปิดลบ 9 จุด หลุดระดับ 1,500 จุด ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ และดาวโจนส์ที่ปรับลงหนักกว่า 300 จุด โบรกฯ ชี้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี และอาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ขณะเดียวกัน ระดับ P/E ที่ 15.7 เท่าของตลาดหุ้นไทยยังเป็นระดับที่ถือว่าค่อนข้างสูงจึงไม่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 ส.ค.) แนวโน้มดัชนีอาจมีการปรับตัวลง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าที่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบกันส่วนใหญ่ เนื่องจากดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ปรับตัวลงแรงกว่า 300 จุด เมื่อคืนนี้ เพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี
นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนจากสถาบันที่เทขายออกมาค่อนข้างมาก เป็นตัวฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในระยะนี้ ขณะเดียวกัน ระดับ P/E ที่ 15.7 เท่า ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นระดับที่ถือว่าค่อนข้างสูงแล้ว จึงไม่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อ พร้อมให้แนวต้านวันนี้ที่ 1,510 จุด แนวรับ 1,480 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ มองว่า วันนี้ตลาดน่าจะปรับตัวลง ดัชนีคงจะหลุด 1,500 จุด ตามแรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งมีความกังวลในเรื่องของภาวะเงินฝืดที่อาจจะเกิดในยุโรป
ส่วนตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ก็ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาด รวมถึงปัจจุบันตลาดหุ้นไทย ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพง โดยมี forward P/E ที่ประมาณ 13 เท่าเศษ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลดลงวานนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วกว่าที่คาด โดยข้อมูลบ่งชี้ว่าต้นทุนแรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปีครึ่ง ในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่เฟดปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เฟดก็ย้ำว่าจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีต้นทุนการจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.7% ใน ไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปีครึ่ง ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ 302,000 ราย ในสัปดาห์ล่าสุด แต่ปริมาณเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์ ลดลง 3,500 ราย สู่ 297,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งเดือน เม.ย.2549 พร้อมมองแนวรับที่ 1,490 และ 1,485 ส่วนแนวต้านที่ 1,518 และ 1,520
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดัชนีเปิดในแดนลบ ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยเมื่อเวลา 10.08 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,493.28 จุด ลดง 9.11 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.61% มูลค่าการซื้อขาย 5,522.95 ล้านบาท
ล่าสุด ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,492.96 จุด ลดลง 9.43 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.63% มูลค่าการซื้อขาย 24,843.34 ล้านบาท