“คลัง” เตรียมเสนอ “คสช.” จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเชียว เพื่อให้เท่าเทียมกับเครื่องดื่มอื่นในตู้แช่ของร้านค้าทั่วไป เพราะเป็นสินค้าที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากผลพิสูจน์พบว่า มีส่วนผสมของชาน้อยมาก
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา “อนาคตเศรษฐกิจไทย หลังวิกฤติการเมือง” โดยระบุว่า เพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการกรมสรรพสามิตไปศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มในตู้แช่ที่วางจำหน่ายตามร้านค้าปลีกทั่วไป เพื่อให้ทุกรายเสียภาษีเท่าเทียมกันอย่างเป็นธรรม หากรายการใดที่ยังไม่เสียภาษีก็ควรเสีย เช่น ชาเขียว หากมีกรรมวิธีการผลิต รูปแบบสินค้าเหมือนกันก็ควรเสียภาษีเท่ากัน เพื่อส่งเสริมเกษตรกรอีกด้านหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเห็นชอบแล้ว ต้องเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในงบประมาณปี 2558
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มบางรายการ สำหรับเครื่องดื่มที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ยกเว้นประกอบด้วยโซดา จัดเก็บในอัตราร้อยละ 25 ของราคา หรือ 0.77 บาทต่อ 440 ซีซี. เครื่องดื่มทั่วไป (เช่น น้ำอัดลม) เก็บร้อยละ 20 ของราคา หรือ 0.77 บาทต่อ 400 ซีซี เป็นต้น แต่ภาษีบางรายการเดิมไม่เก็บภาษี เช่น ภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มชาเขียว ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน ดังนั้น จึงอาจจะพิจารณาเสนอ คสช. ว่าสินค้าประเภทนี้ไม่เข้าเงื่อนไขการได้รับการยกเว้นภาษีอีกต่อไป จากเดิมยกเว้นไม่เก็บ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกใบชา
ในความเป็นจริงจากการศึกษาของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พิสูจน์ส่วนผสมของชาเขียวทั้งหมดแล้วพบว่ามีส่วนผสมของใบชาน้อยมาก จึงพิจารณาเสนอให้ คสช. จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียวที่อัตราร้อยละ 10 หรือร้อยละ 20 ของมูลค่า หากเก็บในอัตราร้อยละ 20 จะมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงการเสนอร่างกฎหมายภาษีทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงมรดกได้เสนอ คสช.พิจารณาแล้ว เพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมมากขึ้น