ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี เผยดัชนีความเชื่อมั่น SME ทรงตัว แต่รอบ 3 เดือนเพิ่มขึ้น หลังวิกฤตการเมืองจบ แต่มีความกังวลในเรื่องต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงขึ้น แนะเร่งช่วยด้านสภาพคล่อง
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics)เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม-ทีเอ็มบี (TMB-SME Sentiment Index) ไตรมาส 2/2557 จากการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SME กว่า 1,000 กิจการ พบว่า ทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ 36.6 นับว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แต่ก็ถือว่าเป็นระดับที่ทรงตัวหลังจากลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55.7 จากไตรมาสก่อนที่ 51.1 นับเป็นการเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ หากสำรวจอย่างละเอียดเป็นรายเดือนพบว่า ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยดัชนีขึ้นมาอยู่ที่ 37.6 จากระดับ 32.8 ในเดือนก่อนที่นับว่าเป็นจุดต่ำสุดในปีนี้ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้า พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก มาอยู่ที่ 62.2 ในเดือนมิถุนายน จากระดับ 51.7 ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นระดับความเชื่อมั่นรายเดือนที่สูงที่สุดในรอบ 9 เดือน
นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงปัจจัยความกังวลที่เจ้าของธุรกิจ SME กังวลมากที่สุด “การเมือง” ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน คือ ร้อยละ 37.8 ของผู้กังวลทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 36.0 ในไตรมาส 1 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเฉพาะผลสำรวจในเดือนมิถุนายน หลังการยึดอำนาจการปกครอง พบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลในเรื่องของปัจจัยทางการเมืองลดลงค่อนข้างมาก คือจากร้อยละ 45.6 ในเดือนพฤษภาคม เหลือที่ร้อยละ 24.9 ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน และกลับมาให้ความสำคัญกับภาวะธุรกิจและเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น โดยมีความกังวลเรื่องดังกล่าว ร้อยละ 30.5 จากร้อยละ 20.2 ในเดือนก่อนหน้า
“ความกังวลของผู้ประกอบการนั้นก็คือ เรื่องของเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ แล้วก็เป็นเรื่องต้นทุนที่อาจจะสูงขึ้น แต่ในเมื่อมีการตรึงราคาพลังงานก็น่าจะลดความกังวลลงได้ระดับหนึ่ง ขณะที่การปลดล็อกด้านเศรษฐกิจด้านต่างๆก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในระดับหนึ่ง แต่จะเห็นผลชัดเจนในปีหน้ามากกว่า”
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนั้น มีแนวโน้มที่ขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และหากทางการสามารถผลักดันโครงการลงทุนออกมาได้ก็อาจทำให้เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือเติบโตเป็นรูปตัววีได้ โดยทีเอ็มบีคาดการณ์เศรษฐกิจครึ่งปีหลังเติบโตได้ 4.2% ทั้งปี 2% ตามเป้าหมายเดิม และในปีหน้าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 4% เมื่อตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกตัวทำงานได้เต็มที่
นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีบางส่วนเริ่มขาดสภาพคล่อง เนื่องจากวงจรการชำระเงินที่ช้าลง หลังคู่ค้าประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ทำให้ตัวผู้ประกอบการเองเกิดปัญหาไปด้วย ซึ่งตรงนี้ควรมีการเข้าช่วยเหลือ อาทิ การเพิ่มวงเงินค้ำประกันของ บสย. เป็นต้น
