ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีระบุแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของ คสช. ปลุกภาคธุรกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้เร็วที่สุดจากเงินจำนำข้าวเข้าสู่ระบบ และยกเลิกเคอร์ฟิว ชี้ปัจจัยสำเร็จอยู่ที่การดำเนินโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ
ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ภาพการเมืองและเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เตรียมดำเนินแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจออกมา ทางศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ได้มองภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศช่วงที่เหลือของปีออกเป็น3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มแรกคือ “ธุรกิจที่ฟื้นตัวเร็ว” ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านค้าปลีกต่างๆ ซึ่งได้รับผลพวงจากเม็ดเงินจากการจำนำข้าวที่เกษตรกรกว่าครึ่งได้รับเงินแล้ว (ล่าสุดจ่ายแล้ว 4 หมื่นล้านบาทจากยอดค้างจ่าย 9.3 หมื่นล้านบาท) ทำให้มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึงภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่มีทิศทางดีขึ้นหลังจากมีการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญไปแล้วบางส่วน ได้แก่ พัทยา กระบี่ เกาะสมุย พังงา ภูเก็ต หาดใหญ่ เกาะช้าง หัวหิน เป็นต้น
กลุ่มต่อมาคือ “ธุรกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว” ได้แก่ ธุรกิจผลิตและขายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไฟฟ้และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในปัจจุบันพบว่ากำลังซื้อยังอ่อนแรงอยู่ แต่ด้วยทิศทางการปรับโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจ ประกอบกับความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นจะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้อีกครั้งในปีหน้า (2558) อย่างไรก็ดี ธุรกิจที่อิงกับภาคการเกษตรยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อันเนื่องมาจากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำ อาจจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของธุรกิจเหล่านั้นในระยะถัดไปได้
และในกลุ่มสุดท้ายคือ “ธุรกิจที่ต้องรอปัจจัยหนุน” ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ต้องมีมาตรการหรือนโยบายจากภาครัฐช่วยกระตุ้น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เนื่องจากภาครัฐอยู่ในระหว่างการดำเนินมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น การตั้งบอร์ดบีโอไอเพื่ออนุมัติเงินลงทุนกว่า 7.6 แสนล้าน การลดขั้นตอนจากออกใบอนุญาต รง.4 โดยเฉพาะโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้อาจต้องรอเวลาสักพัก จึงจะทำให้กลุ่มธุรกิจที่รอปัจจัยหนุนได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของภาคธุรกิจในปัจจุบันเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค ด้านความชัดเจนของโครงสร้าง นโยบาย แผนงาน และมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาว่าจะสามารถแปลงให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติได้มากเพียงใด ซึ่งในส่วนภาคธุรกิจคงต้องปรับตัวตาม และเลือกวางแผนธุรกิจให้มีความสอดคล้องกับแผนงานใหม่ๆ ของภาครัฐ อันจะนำไปสู่การฟื้นตัวของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพได้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของภาคธุรกิจในปัจจุบันเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค ด้านความชัดเจนของโครงสร้าง นโยบาย แผนงาน และมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาว่าจะสามารถแปลงให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติได้มากเพียงใด ซึ่งในส่วนภาคธุรกิจคงต้องปรับตัวตาม และเลือกวางแผนธุรกิจให้มีความสอดคล้องกับแผนงานใหม่ๆของภาครัฐ อันจะนำไปสู่การฟื้นตัวของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพได้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *