ทีเอ็มบี ยืนเป้าหมายสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้โต 10-15% แม้ 5 เดือนจะโตแค่ 5% เน้นเจาะกลุ่มไซส์ SS ยอดขายต่ำกว่า 50 ล้านต่อปี เหตุเข้าถึงสินเชื่อยาก-ผลตอบแทนดี พร้อมจัดโครงการ “TMB Efficiency Improvement for Supply Chain” รุ่นที่ 3 ติวเข้มกลุ่มค้าปลีกรับเศรษฐกิจฟื้น
นายปพนธ์ มังคละธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอสเอ็มอีและซัปพลายเชน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยว่า ทีเอ็มบียังคงเป้าหมายสินเชื่อเอสเอ็มอีเติบโตในปีนี้ที่ระดับ 10-15% แม้ว่าในช่วง 5 เดือนแรก จะขยายตัวเพียง 5% จาก 171,000 ล้านบาท มาเป็น 176,000 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจหลักๆ จะเริ่มกระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจนในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ทีเอ็มบีก็มีแนวทางที่จะรุกในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็กหรือมียอดขายต่ำว่า 50 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่ามีไซส์ที่เล็กกว่าเกณฑ์ทั่วไป เป็นกลุ่มที่เข้าถึงสินเชื่อได้ยากแต่มีผลตอบแทนที่สูง โดยจากการสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรวมประมาณ 2 ล้านล้านราย เป็นกลุ่มดังกล่าวกว่า 50% ซึ่งธนาคารจะไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นให้สิทธิประโยชน์ผ่านผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ
“ในช่วงที่ผ่านมาปัญหาของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็คือการขาดสภาพคล่องหลังจากยอดขายลดลง แต่เมื่อมีเงินหมุนเวียนเข้ามาในระบบ ก็คาดว่าอีกประมาณ 3-6 เดือนจึงจะหมุนเวียนเข้าถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทำให้เห็นสินเชื่อในรูปของการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วง 6 -12 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการทดสอบสำหรับผู้ประกอบการได้ ซึ่งก็มีหลายรายที่มีปัญหาไป ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัว เพราะเชื่อว่าในอนาคตปัญหาก็จะเข้ามาอีก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภายในหรือภายนอก”
ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญคือผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับตัวให้ได้กับภาวะการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น อย่างในช่วงที่ผ่านมาก็จะต้องพยายามลดต้นทุนเพื่อรักษากำไรในขณะที่ยอดขายลด แต่ในช่วงต่อไปก็จะต้องหันมาพัฒนาศักยภาพเพื่อรองรับการแข่งขันในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว รวมถึงโอกาสและตลาดที่กว้างขึ้นหลังเปิด AEC เพราะหากไม่ปรับตัวก็อาจจะไม่สามารถแข่งขันได้
ล่าสุด ทีเอ็มบี ร่วมกับ เอสซีจี เปเปอร์ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และเซ็นทรัล กรุ๊ป เปิดโครงการ “TMB Efficiency Improvement for Supply Chain” รุ่นที่ 3 สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มค้าปลีก เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการตลอดทั้งซัปพลายเชน ลดความสูญเสีย และตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออก รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจในการทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อมรับกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในอนาคตโดยผู้ประกอบการ เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 31 ก.ค. นี้
อนึ่ง โครงการ “TMB Efficiency Improvement for Supply Chain” รุ่นที่ 3 จึงได้เลือกเปิดอบรมให้กับ ซัปพลายเชนของอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภค เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มีจีดีพีสูงถึง 28% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมีต้นทุนอยู่ที่ 85% ดังนั้น ทุก 1% ของต้นทุนที่ลดลง จะเป็นเงินประมาณ 28,000 ล้านบาท หรือส่งผลให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้น 0.2% นั่นเอง