xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นคลายกังวล “อียู” คว่ำบาตร โบรกฯ เชื่อผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ลุ้นแตะ 1,500 จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ชี้ หุ้นปรับบวกได้ 7 จุด คลายกังวลอียูคว่ำบาตร คาดพรุ่งนี้บวกต่อเนื่อง เผยแรงขายต่างชาติ 10 วัน ไม่มาก พร้อมให้กรอบ 1,450-1,477 จุด ขณะทีื่ บล.เมย์แบงก์ เชื่อตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น และผ่านจุดที่น่าห่วงมาแล้ว มั่นใจดัชนีหุ้นมีโอกาสแตะ 1,500 จุดได้

นายธวัชชัย อัศวพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่วานนี้ลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,450-1,447 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงขานรับต่อปัจจัยลบที่เข้ามากระทบ ในเรื่องของสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ เรื่อง Capital Gain Tax รวมถึงกรณีล่าสุด ข่าวมาตราการคว่ำบาตรไทยของสหภาพยุโรป (อียู) แต่เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้น จึงทำให้จิตวิทยาเชิงลบของนักลงทุนคลายความกังวลลงไปส่งผลให้มีแรงซื้อกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ หากพิจารณาสัญญาณทางเทคนิคแล้ว จะเห็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal) อีกด้วย แม้จะมีแรงขายสุทธิของต่างชาติมาต่อเนื่อง กว่า 10 วันทำการ แต่แรงขายที่ไม่มากนัก อีกทั้งด้วยจำนวนนักลงทุนไทยที่เพิ่มขึ้น มูลค่าการลงทุนสูงขึ้น ประเด็นนี้จึงไม่มีนัยสำคัญต่อดัชนีฯ ในช่วงสั้นนี้

พรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยบวกต่อ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องข่าวมาตราการคว่ำบาตรไทยของอียู รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานก่อนจะสิ้นไตรมาส 2/2557 ของกลุ่มธนาคาร จะเป็นแรงหนุนให้ดัชนีฯ ปรับบวกได้ บนภาพบรรยากาศทางการเมืองค่อนข้างเอื้อต่อการลงทุน โดยมีแนวโน้มที่จะเห็นรัฐบาลชุดใหม่ในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งมองว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีกว่ารัฐบาลชุดก่อน ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไรในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยประเมินแนวรับ 1,460-1,450 จุด แนวต้าน 1,470-1,477 จุด

ขณะที่งานสัมมนา Capital Market Research Forum เรื่อง มุมมองการลงทุนภายใต้จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้จะอยู่ในช่วงขาขึ้น และผ่านจุดที่น่าเป็นห่วงมาแล้ว โดยมองว่าดัชนีหุ้นมีโอกาสแตะ 1,500 จุดได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะคืบหน้าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ ดัชนีที่ปรับขึ้นสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.5 ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 10 ซึ่งมาจากกำไรของกลุ่มสถาบันการเงิน สื่อสาร และพลังงานเป็นหลัก ส่วนในปีหน้ามองว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้นจากปีนี้ โดยคาดว่าเติบโตได้ร้อยละ 4 กำไร บจ.เติบโตร้อยละ 11 ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าอยู่ที่ระดับ 1,650 จุดได้ อย่างไรก็ตาม บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จะทบทวนตัวเลขต่างๆ อีกครั้งในไตรมาสที่ 3 ปีนี้

ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหารายงานการค้ามนุษย์ประจำปี 2557 ของสหรัฐ ซึ่งไทยถูกลดระดับลงมาอยู่ในระดับต่ำสุด หรือ “Tier 3” และอียูชะลอความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทยนั้น ต้องติดตามสถานการณ์ว่าจะรุนแรงขึ้นถึงขั้นต้องบอยคอตสินค้าไทยหรือไม่ หากบอยคอตจะกระทบกับภาคการส่งออก ซึ่งทั้งตลาดสหรัฐและยุโรปเป็นตลาดหลักการส่งออกของไทย แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่ารุนแรง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมอาหารและประมง เพราะไทยมีคุณภาพสินค้าดี หากมีการชะลอคำสั่งซื้อสินค้า จะเป็นระยะเพียงชั่วคราวเท่านั้น

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าโตร้อยละ 2 มาจากความคาดหวังนโยบายของ คสช.ที่โดนใจประชาชน ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น แต่นโยบายของ คสช.ยังไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จในปีนี้ ยกเว้นการจ่ายเงินชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว 90,000 ล้านบาท ที่ช่วยทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบฐานรากและเอสเอ็มอี และการจัดทำงบประมาณปี 2558 ที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ ดังนั้น ต้องรอติดตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะเริ่มในปี 2558 โดยมีเม็ดเงินลงทุน 600,000 ล้านบาท เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2558
กำลังโหลดความคิดเห็น