และแล้วก็ผ่านสัปดาห์ที่ทำให้ทองคำเลือกทางมาจนได้ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสองประเด็นหลักๆ ที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ $1,280 เหรียญขึ้นมาได้ นั่นก็คือ 1.การประเมิน GDP ของสหรัฐฯ ว่าปีนี้จะเติบโตน้อยลงกว่าตอนที่คาดไว้เมื่อเดือนมีนาคม โดยล่าสุด มองว่าปีนี้ GDP จะโตราว 2.0-2.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากก่อนหน้านี้ คาดไว้ว่าจะโต 2.80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เงินดอลลาร์เริ่มกลับมาอ่อนค่าทันที ส่วนประเด็นที่สอง คือ ความไม่สงบในอิรักก็เริ่มจะกลับมาดูเพิ่มความตึงเครียด หลังสหรัฐฯ เริ่มมีแนวคิดที่จะส่งคนเข้าไปบ้างถึงแม้จะยังไม่ใช่กองทัพทหารก็ตาม แต่ทำให้ตลาดตอบรับบวกกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำทันที
ตามเทคนิคต้องยอมรับว่าหลังผ่าน $1,280 เหรียญขึ้นมา แผนที่เราคิดจะรอซื้อสะสมบริเวณ $1,230-1,240 เหรียญดูจะยากซะแล้ว ทำให้นักเก็งกำไรที่มีวินัยต้องใจแข็งกัดฟันซื้อตามมาที่ราคาสูงแถวๆ $1,280 เหรียญขึ้นมา ซึ่งการซื้อไล่ราคาก็ต้องลุ้นเหนื่อยหน่อยว่าราคาทองคำจะวิ่งขึ้นได้อีกนานเท่าไหร่ ล่าสุด ราคาอยู่ที่ $1,313 เหรียญ ทางเทคนิคอาจมีการย่อลงมาแถว $1,300-1,305 บ้าง แต่ถ้าไม่หลุด ก็จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ $1,360-1,390 อีกระลอก
ถ้าดูกันภาพใหญ่ๆ ในช่วง1-2 ปีข้างหน้า ราคาทองคำยังยากที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้นใหญ่ เนื่องจากยังจะถูกกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้น แต่ในระยะสั้นได้ผลบวกจากเหตุการณ์ในอิรักที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่ง และทำให้ทองคำขึ้นไปด้วยทางอ้อม แต่ที่สำคัญคงเป็นเพราะการเกิดความรุนแรงในอิรัก อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องลงทุนส่งกองกำลังเข้าไปแทรกแซงอีกครั้ง ซึ่งตัวนี้จะทำให้สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายมากมายจนน่าจะทำให้หลายคนมองว่าทุกครั้งที่สหรัฐฯ ทำแบบนี้มักจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ใกล้จะไม่ดีอีกแล้ว ดอลลาร์น่าจะอ่อนค่าในอนาคต ผนวกกับการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงเริ่มทำให้นักลงทุนเริ่มมั่นใจว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้อาจมีตัวเลขไม่ดีออกมาเรื่อยๆ อีกครั้ง ถ้าเป็นอย่างนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีมาตรการบางอย่าง เช่น หยุดการลดขนาดคิวอี หรือการเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกจากเดิมคาดว่าในปี 2015 จะมีการปรับขึ้น
อีกประเด็นที่น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ๆ สำหรับราคาทองคำแต่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ก็คือ การมีบทบาทสำคัญมากขึ้นของสกุลเงินหยวนที่ถูกมาใช้ในการแลกเปลี่ยนทางการค้าของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะระหว่างจีน และรัสเซีย ทั้งคู่เป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจอยู่แล้ว ทางรัสเซียหนึ่งในมหาอำนาจด้านพลังงาน จีนก็ไม่ต้องพูดถึง ซึ่งหากจีนทำสำเร็จจนถึงขั้นสกุลเงินหยวนมามีบทบาทใกล้เคียงดอลลาร์ และยูโร แน่นอนว่าราคาทองคำในรูปแบบดอลลาร์ก็น่าจะพุ่งขึ้นในระยะยาว ประเด็นหลังนี้คงยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในไม่กี่ปีข้างหน้า หากจะซื้อถือยาวๆ 5 ปีขึ้นไป ก็อาจไกลเกินสำหรับใครหลายคน ช่วงนี้จึงยังแนะนำให้ติดตามเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไปก่อน
คำแนะนำ หากยืน $1,300 เหรียญได้ แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไร โดยบริเวณช่วงราคาที่แนะนำให้ขายจะอยู่บริเวณ $1,360 เหรียญต่อออนซ์ขึ้นไป
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก