บมจ.เซ็ปเป้ หรือ SEPPE เตรียมเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังสรุปราคาหุ้นเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ที่ 13.50 บาท/หุ้นพร้อมเปิดจองระหว่าง 18-20 มิถุนายนนี้ คาดเข้าเทรดใน ตลท.วันที่ 25 นี้ ตั้ง บล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ตั้งเป้ารายได้โต 25% ต่อเนื่องทุกปี ฟุ้งไตรมาส 1 ทำกำไรพุ่ง 449%
นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายสร้างสรรค์แบรนด์ เครื่องดื่มเซ็ปเป้ และแบรนด์อื่นๆ ให้เป็นเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก โดยให้ความสำคัญต่อการสร้างความแปลกใหม่ในด้านนวัตกรรมให้แก่วงการเครื่องดื่ม ทั้งรสชาติสินค้า และบรรจุภัณฑ์ ภายใต้กระบวนการผลิต การวิจัย ช่องทางจำหน่ายหลากหลาย เพื่อรุกทำตลาดทั้งในต่างประเทศ และในประเทศ ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/57 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขาย 774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายรวม 471.21 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 449% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.60 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตมาจากยอดขายจาการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง มีผลต่อความสามารถทำกำไรที่ดี เนื่องจากสามารถประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of Scale จากการผลิตจำนวนมากตามยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น และความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์สินค้าของคนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดโลก โดยเน้นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ และบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย มีความโดดเด่น ภายใต้นโยบายสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้เราสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ บมจ.เซ็ปเป้ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งสิ้น 75 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 304.62 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วมีจำนวน 225 ล้านบาท คิดเป็น 225 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ขยายกำลังการผลิตเครื่องบรรจุน้ำ และการผลิตขวด PET รองรับแผนขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต ส่วนที่เหลือนำไปชำระเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ ต่อไป