“พลัส” ชี้อานิสงส์ปัญหาการเมือง ผู้ประกอบการไม่กล้าเปิดโครงการใหม่ คนหันซื้อคอนโดฯ รีเซลเพิ่ม แถมราคาถูกกว่า 30% เผย 5 เดือนสต๊อกเก่าลดวูบ จากตัวเลขห้องว่างใน กทม. 20-25% ในปี 56 เหลือ 18% ใน พ.ค.57 ล่าสุด ขนคอนโดฯ รีเซลล์ 1,190 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท จัดงาน “Next Station Your Condo - สถานีต่อไป คอนโดของคุณ” ระหว่างวันที่ 20-22 มิ.ย.นี้ ณ สยามพารากอน คาดกวาดยอดขายกว่า 200 ล้านบาท
นายภูมิศักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เชื่อว่าจะเริ่มปรับตัวไปในทิศทางดีที่ขึ้นตามมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจตามโรดแมปคืนความสุขให้คนไทย ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหลายโครงการที่จะเดินหน้าได้ในเร็วๆ นี้ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางในประเทศ และระหว่างประเทศ ที่จะช่วยในเรื่องการฟื้นตัวของการบริโภค และลงทุนซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลอดจนจะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ ยังพบว่าแนวโน้มการขายในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. มีทิศทางดีขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกพอสมควร โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมือสอง หรือ คอนโดมิเนียมรีเซล (นำกลับมาขายใหม่) ในย่านกลางเมือง หรือตามแนวรถไฟฟ้ามียอดขายดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ประกอบการไม่เปิดขายโครงการใหม่นับจากเกิดปัญหาการเมืองตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยมาก บางทำเลไม่มีสินค้าเปิดใหม่เลย อีกทั้งคอนโดฯ เปิดใหม่ยังมีราคาขายแพงกว่าคอนโดฯ ที่เปิดขายก่อนหน้านี้โดยเฉลี่ยประมาณ 30% ตามต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น เช่น จากเดิม 200,000 บาท/ตร.ม. ขณะที่คอนโดฯ รีเซลที่เปิดขายในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ ราคาขายเฉลี่ยที่ 130,000 บาท/ตร.ม.เท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อคอนโดฯ รีเซล หรือคอนโดฯ มือสองแทน
ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทพบว่ายอดขายส่วนใหญ่มาจากคอนโดฯ รีเซลล์ และจากภาพรวมของการพักอาศัยในคอนโดฯ พบว่า จำนวนห้องว่างในโครงการคอนโดฯ ในเขตกรุงเทพฯ ช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจมีห้องว่าง สูงถึง 30% และได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2556 ที่ผ่านมา จำนวนห้องว่างอยู่ที่ 20-25% แต่ ณ เดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาลดเหลืออยู่ประมาณ 18% เท่านั้น หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเชื่อว่าสต๊อกเก่าที่ค้างอยู่ในตลาดจะถูกดูดซับออกไปจำนวนมาก และช่วยลดปัญหาคอนโดฯ ล้นตลาดในช่วงก่อนหน้านี้อีกด้วย
นายภูมิศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคัก ทั้งยังเป็นการรองรับกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น บริษัทจึงได้จัดงาน “Next Station Your Condo - สถานีต่อไป คอนโดของคุณ” ระหว่างวันที่ 20-22 มิถุนายนนี้ ที่สยามพารากอน โดยนำคอนโดฯ รีเซล ซึ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทกว่า 80 โครงการ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,190 ยูนิต โดยมีมูลค่าราว 2,500 ล้านบาท แนวรถไฟฟ้า 12 สถานี ได้แก่ อารีย์ สะพานควาย สยาม ราชเทวี พญาไท เพลินจิต ชิดลม พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย พระโขนง และอ่อนนุช สำหรับห้องชุดราคาขายถูกที่สุดภายในงานยูนิตละ 1.9 ล้านบาท ในย่านสุขุมวิท 52 ไปจนถึงราคาแพงที่สุดยูนิตละ 100 ล้านบาท ในย่านราชดำริ
การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมพิเศษที่ลูกค้า และผู้สนใจที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว หรือต้องการซื้อเพื่อลงทุนได้มีโอกาสซื้อคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในราคาที่ต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ในทำเลเดียวกัน 22-44% (เปรียบเทียบราคาขายต่อตารางเมตร) โดยพบว่า ทำเลอารีย์-สะพานควาย (พหลโยธิน) ราคาขายคอนโดฯ ใหม่เฉลี่ยที่ 122,000 บาท/ตร.ม. ขณะที่คอนโดฯ รีเชลราคา 95,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่า 22%, สยาม-ราชเทวี-พญาไท คอนโดฯ ใหม่ราคา 150,000 บาท/ตร.ม. คอนโดฯ รีเซล 112,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่า 25%, เพลินจิต-ชิดลม ราคาคอนโดฯ ใหม่เฉลี่ย 175,000 บาท/ตร.ม. คอนโดฯ รีเซล 121,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่า 30%, พร้อมพงษ์ คอนโดฯ ใหม่ 200,000 บาท/ตร.ม. คอนโดฯ รีเซล 111,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่า 44%, ทองหล่อ-เอกมัย คอนโดฯ ใหม่ 158,000 บาท/ตร.ม. คอนโดฯ รีเซล 105,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่า 33%, พระโขนง-อ่อนนุช คอนโดฯ ใหม่ 110,000 บาท/ตร.ม. คอนโดฯ รีเซล 77,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่า 30%
จากราคาคอนโดฯ รีเซลที่ถูกกว่าดังกล่าว ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ซึ่งบางโครงการเป็นโครงการใหม่ มีอายุเฉลี่ย 1-3 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ ข้อดีของห้องชุดรีเซลอีกประการหนึ่งคือ ทำให้กลไกตลาดทำงานได้อย่างเต็มที่ เกิดการดูดซับซัปพลายในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม คาดว่างานนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ที่สนใจ และสามารถสร้างยอดขายได้ราว 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ อ้างอิงจากการสำรวจข้อมูลของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัสฯ พบว่า กลุ่มผู้ซื้อคอนโดฯ ใจกลางเมืองแนวรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองสัดส่วนถึง 47% ผู้เช่าอยู่อาศัย 33% และห้องว่างสำหรับการลงทุนระยะยาว และรอการปล่อยเช่าอีก 20% จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้อยู่อาศัยทั้งหมดจะมีอยู่ประมาณ 80%
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดโปรโมชันสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารไทยพาณิชย์สำหรับลูกค้าที่ซื้อห้องชุดภายในงาน ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0.5% ต่อปีในปีแรก หรือฟรีค่าจดจำนอง 1% พร้อมฟรีค่าประเมินโครงการและค่าธรรมเนียมจัดการสินเชื่อ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษตลอด 3 วัน ประกอบไปด้วย วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2557 (เวลา 17.30 น.) และวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน (เวลา 14.30 น.) ร่วมฟังบรรยาย และพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารไทยพาณิชย์ และศูนย์วิจัยธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ และวันสุดท้ายคือวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน (เวลา 14.30 น.) การเสวนาเรื่องจัดฮวงจุ้ยรับทรัพย์รับโชค โดยหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา
ด้านผลการดำเนินงาน ณ สิ้นเดือน พ.ค.57 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 270 ล้านบาท มาจากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย และเพื่อการพาณิชย์ 160 ล้านบาท, ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (ตัวแทน ซื้อ ขาย เช่า อสังหาฯ 110 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดขายรีเซล 40 ล้านบาท) ยอดรายได้ดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยประมาณ 2-3% จากเป้ารายได้ทั้งปี 790 ล้านบาท