ปิดตลาดหุ้นวันที่ 29 เมษายน 2257 ดัชนีอยู่ที่ 1,411.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,429.04 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง +0.22% โดยระหว่างเทรดดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,417.02 จุด และต่ำสุดที่ 1,409.19 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อย่างต่อเนื่อง สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่สวนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันนี้ โดยคาดว่าปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยใช่วงไตรมาสแรก ซึ่งจะทยอยประกาศงบในช่วงใกล้ๆ นี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ ประเมินว่ามีโอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นไปต่อได้ โดยคาดว่าประเด็นทางการเมืองในสัปดาห์นี้อาจจะมีน้ำหนักต่อดัชนีตลาดน้อย เพราะการพิจารณาคดีสำคัญต่างๆ ยังต้องใช้เวลา หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำสั่งให้เลื่อนกำหนดการชี้แจงข้อกล่าวหาในคำร้องว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่” ออกไป 15 วันจากกำหนดเดิม โดยจะให้เข้าชี้แจงในวันที่ 2 พ.ค.2557 และให้ไต่สวนพยานอีก 4 ปาก ในวันที่ 6 พ.ค.2557 นอกจากนี้ ป.ป.ช. ก็ยังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะให้มีการสอบพยานเพิ่มในคำร้องเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ตามที่ฝ่ายผู้ถูกร้องยื่นขอหรือไม่
ดังนั้น การเคลื่อนไหวของดัชนีในสัปดาห์นี้น่าจะยังได้รับอิทธิพลจาก Fund Flow ที่ยังอยู่ในทิศทางขาเข้า และแนวโน้มผลประกอบการงวด 1Q57 ของผู้ประกอบการในภาคการผลิต ที่ประเมินว่าจะยังได้รับ sentiment เชิงบวกในทางธุรกิจ เช่น พลังงาน และปิโตรเคมี เป็นต้น และการที่ดัชนีหุ้นไทยมี Current PER ที่สูงราว 15 เท่า อาจทำให้ SET Index มี Upside จำกัด กลยุทธ์การลงทุนจึงยังเป็นการเลือกหุ้นรายตัว โดยมีกรอบดัชนีที่ระดับ 1,393-1,427 จุด