“ยูเอ็มไอ” แจงขายที่ดินไร้สิ่งปลูกสร้างกว่า 323 ไร่ ในจ.สระบุรี ระบุผู้ซื้อได้ชำระเงิน 140 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระบุนำเงินชำระหนี้เงินกู้ระยะยาว ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ พร้อมเดินหน้าออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ชำระหนี้และลงทุนปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิต จับตาผลประกอบการไตรมาส 2
น.ส.ปวีณา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทมีที่ดินเปล่า จำนวน 26 โฉนด รวมเนื้อที่ 323-2-92 ไร่ ตั้งอยู่บนที่ตำบลห้วยขมิ้น อ.หนองแค จังหวัดสระบุรี บริษัทมิได้ใช้ประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น และได้ติดป้ายประกาศขายไว้ในบริเวณที่ดินที่จะขายมาตั้งแต่ปี 2550 ปัจจุบัน สามารถตกลงราคาซื้อขายกันที่ราคา 140 ล้านบาท ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียม และค่าภาษีต่างๆ ในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมด โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ค.57 บริษัทได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามที่กล่าวข้างต้นให้แก่ผู้ซื้อแล้ว โดยได้รับชำระค่าที่ดินเป็นจำนวนเงินสุทธิ 140 ล้านบาท
ซึ่งการคำนวณรายการตามเกณฑ์มูลค่าสิ่งตอบแทนเปรียบเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวมของบริษัทตามงบการเงิน ณ วันที่ 31 มี.ค.57 เท่ากับ 4.82% บริษัทไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ แต่บริษัทมีความประสงค์ที่จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวตามหลักธรรมาภิบาล
สำหรับมูลค่าทางบัญชีของที่ดินแปลงดังกล่าวเมื่อวันที่ 31 มี.ค.57 คิดเป็นจำนวนเงิน 39 ล้านบาท ซึ่งใช้เกณฑ์ราคาตลาดในการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน
ทั้งนี้ ผลประโยชน์จากการขายที่ดินแปลงดังกล่าวจะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะยาวเป็นการลดดอกเบี้ยเงินกู้ และลดค่าใช้จ่ายในการดูแลบำรุง และภาระภาษีบำรุงท้องที่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/57 เมื่อวันที่ 9 เม.ย.57 อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยเป็นการเสนอขายครั้งเดียว หรือหลายคราวก็ได้ อายุไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ออกหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง ซึ่งวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ เพื่อนำเงินทุนไปปรับปรุงเทคโนโลยีทางการผลิตให้ทันสมัย และนำไปชำระคืนเงินกู้ ซึ่งจะทำให้ประหยัดต้นทุนทางการเงิน เพื่อรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว
ในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อย ในไตรมาสที่ 1 ปี 57 มีรายได้รวม 863 ล้านบาท ลดลง 63 ล้านบาท หรือ7% ค่าใช้จ่ายขาย และบริหารลดลง 3 ล้านบาท หรือ 2% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท หรือ 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 56
สินทรัพย์รวม มีจำนวน 4,645 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 56 เท่ากับ 110 ล้านบาท หรือ 2% เป็นผลจากลูกหนี้การค้า และลูกหนี้อื่นสุทธิลดลง 46 ล้านบาท หรือ 6% ลดลงตามยอดขายที่ลดลง สินค้าคงเหลือลดลง 55 ล้านบาท หรือ 7%
หนี้สินรวม มีจำนวน 2,765 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 56 จำนวน 115 ล้านบาท หรือ 4% เป็นผลมาจากเจ้าหนี้การลดลง 54 ล้านบาท หรือ 10% และเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินลดลง 47 ล้านบาท หรือ 6% จากการชำระเงินกู้ระยะยาวให้แก่สถาบันการเงิน โดยคงเหลือหนี้ประมาณ 678.84 ล้านบาท