ประธานสภาธุรกิจตลาดทุน ชี้หากทุก บจ. มีธรรมาภิบาล จะเป็นกลไกสำคัญผลักดัน ศก.ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน ย้ำการเปิดข้อมูลให้นักลงทุนได้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อนำประกอบการลงทุน และไม่ควรปิดบังซ่อนเร้นอะไรบางอย่างไว้ เพราะอาจจะทำให้บริษัทได้รับความเสียหายได้
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวในงานเสวนา CG Forum ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ลตท.) โดยระบุว่า ในขณะนี้ถือว่าประเทศไทย และบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไทยนั้นได้ให้ความสำคัญแก่การมีธรรมาภิบาลเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่า หากบริษัทใดไม่มีธรรมาภิบาล นักลงทุนจะไม่ให้ความสนใจในการลงทุน รวมไปถึงลดความน่าเชื่อถือลงไปกว่าร้อยละ 50
พร้อมกันนี้ ยังมองว่าบริษัทที่มีธรรมาภิบาลควรจะมีการเปิดข้อมูลให้นักลงทุนได้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อนำประกอบการลงทุน และไม่ควรปิดบังซ่อนเร้นอะไรบางอย่างไว้ เพราะอาจจะทำให้บริษัทได้รับความเสียหายได้
ทั้งนี้ ทุกบริษัทหากมีการให้ความสำคัญด้านธรรมาภิบาลนั้น จะทำให้เศรษฐกิจไทยในอนาคตขยายตัวได้อย่างยั่งยืน พร้อมมองว่า บริษัทจดทะเบียนไทยส่วนใหญ่หลังจากผ่านวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 แล้วต่างมีธรรมาภิบาลเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก