xs
xsm
sm
md
lg

เผยรายชื่อ 10 ที่ปรึกษา ศก. เรียกเชื่อมั่น ตลาดฯ จับตา Road Map และมาตรการคง VAT 7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นรีบาวนด์ขานรับ 10 ที่ปรึกษา ศก. เผยรายชื่อที่ออกมาเป็นที่ยอมรับทั้งใน และต่างประเทศ และเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ แนะจับตา Road Map และมาตรการคง VAT 7% คาดหุ้น Domestic Play คึกคัก ดัชนีปรับขึ้นทดสอบ 1,400-1,405 จุด เผยสัญญาณดี ต่างชาติเริ่มชะลอขาย

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 พ.ค.) ดัชนีเปิดในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 10.07 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,404.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.22 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.88% มูลค่าการซื้อขาย 5,866.54 ล้านบาท

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มองว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,400-1,405 จุด หลัง คสช. เปิดตัวทีมที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ โดยการเผยรายชื่อดังกล่าว เชื่อว่าเป็นที่ยอมรับทั้งใน และต่างประเทศไม่น้อย ด้วยความคาดหวังเชิงบวกที่จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และนักธุรกิจในต่างประเทศ บวกกับรอความชัดเจนของแผนเศรษฐกิจ ซึ่งมี พล.อ.อ.ประจิณ เป็นประธาน จะสรุปแผนและเสนอต่อ คสช. ในวันที่ 6 มิ.ย. จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติได้มากน้อยเพียงใด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้บวกแรงมาจาก 2 ส่วน บรรยากาศข้างนอกอิงทางบวก ปัจจัยในประเทศผ่อนคลายเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจากที่มีการตั้งทีมเศรษฐกิจขึ้นมา บุคคลที่มาน่าจะเป็นที่ยอมรับได้

ทิศทางระหว่างวันให้ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับให้เห็น แต่โดยรวมหลังผ่อนคลายเรื่องเศรษฐกิจก็น่าจะดี วันนี้กลุ่ม PTT ที่ปรับลง 2 วันก่อนเริ่มอยู่แดนบวก กลุ่มพาณิชย์ แบงก์ก็ฟื้นขึ้นมา โดยกรอบวันนี้ ทะลุแนวต้านแรก 1,400 จุดไปแล้ว ต้องดูว่ายืนเหนือ 1,400 จุดได้หรือไม่

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ไอร่า ระบุว่า ความคาดหวังมาตรการต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ภายใต้ Road Map ของ คสช. จากก่อนหน้านี้ที่มีการเร่งจ่ายเงินจานาข้าวที่ค้างอยู่ จำนวน 90,000 ล้านบาทให้แก่ชาวนา ซึ่งคาดเสร็จสิ้นในเดือน มิย. นี้

ทั้งนี้ แนะติดตามประเด็นนโยบายการปรับภาษี ทั้งภาษีบุคคลธรรมดา และคงอัตราภาษีนิติบุคคล รวมถึงเสนอให้คงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ต่อไปอีก 1 ปี และการเร่งจัดทางบประมาณปี 58 รวมถึงการดำเนินงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งคาดเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดฯ อย่างไรก็ตาม ยังถูกกดดันจาก Fund Flow หลังมีแรงขายสุทธิจากต่างชาติต่อเนื่องอีก ประมาณ 2,700 ล้านบาท และทำให้ YTD ขายสุทธิเพิ่มเป็นเกือบ 34,000 ล้านบาท

สาหรับกลยุทธ์ แนะนาให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาลดลงมาจากการขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในประเทศ เช่น หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มส่งออก และกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีความผันผวนของผลประกอบการต่ำ

นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตา (1) การทำหน้าที่ขององค์กรอิสระต่างๆ เช่น ป.ป.ช. ศาล ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป (2) การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จะสามารถเข้าบริหารประเทศได้เมื่อไร และนโยบายทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาประเทศจะเป็นไปในรูปแบบใด รวมถึงประเด็นความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ยอมรับว่า ความกดดันจากแรงขายของต่างชาติที่คาดว่าจะมีเหลืออีกเล็กน้อยแล้ว ตลาดหุ้นวันนี้ยังไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามาซึ่งน่าจะหนุนให้เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ได้ต่อในระยะสั้น เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรับเหมาฯ แต่สำหรับพอร์ตการลงทุนระยะยาว

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.51 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,407.60 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.07% มูลค่าการซื้อขาย 14,165.48 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น