xs
xsm
sm
md
lg

ทีดับบลิวแซด ฯ รุกธุรกิจ 3G และทีวีดิจิตอล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บมจ. ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น หรือ TWZ
TWZ รุกธุรกิจ 3G และทีวีดิจิตอล จับมือเป็นพันธมิตรกับ 3 ยักษ์ใหญ่ CTH GRAMMY และ HMPRO ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย คาดรับรู้รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้กว่า 250 ล้านบาท



นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น หรือ TWZ กล่าวว่าบริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับผู้ประกอบการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก และผู้สร้างสรรค์ รวบรวมคอนเทนต์ (Content Provider) 2 รายใหญ่ของประเทศ คือ บมจ.ซีทีเอช และ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หรือ GRAMMY ซึ่งทั้ง 2 รายมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ของตลาดที่มีคอนเทนต์เป็นของตัวเอง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ด้านบันเทิง กีฬา วาไรตีต่างๆ จำนวนมาก โดยบริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายแพกเกจพร้อมอุปกรณ์รับสัญญาณ สอดรับกับยุคเปลี่ยนผ่านของทีวีระบบอะนาล็อก สู่ระบบดิจิตอล

“จากตัวเลขผู้ที่ติดตั้งทีวีดาวเทียม และทีวีระบบบอกรับสมาชิกอื่นๆ ที่มีจำนวนรวมกว่า 17 ล้านครัวเรือน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่มากที่เราจะสามารถขายแพกเกจของ CTH และ GMM โดยเราจัดแพกเกจที่มีความคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคอย่างมาก เพราะจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย แต่สามารถดูคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกได้เพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายช่อง โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 6% ของจำนวนกว่า 17 ล้านครัวเรือน ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ และกำไรให้แก่ TWZ ในปีนี้ได้ไม่น้อยกว่า 10% เมื่อเทียบ
กับปีที่ผ่านมา”

สำหรับการทำตลาดให้แก่ CTH และ GRAMMY นั้น บริษัทฯ จะนำสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ตเจตต่างๆ มาร่วมจัดทำแพกเกจเพื่อกระตุ้นการขาย ประกอบกับกระแสของทีวีดิจิตอล ซึ่งสมาชิก CTH และ GRAMMY จะสามารถดูทีวีดิจิตอลผ่านดาวเทียมได้ทันที ไม่ต้องรอการวางโครงข่ายภาคพื้นดิน ซึ่งกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ก็เป็นปัจจัยหนุนอีกประการหนึ่งที่จะช่วยให้ขายแพกเกจได้มากขึ้น และในส่วนของช่องทางจำหน่าย TWZ ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ เกือบ 90 สาขา จากที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่าย ทั้งร้านเทเลวิซ ร้านทีดับบลิวแซด และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอีกกว่า 400 ราย การเข้าร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่อย่างโฮมโปรที่มีฐานลูกค้าประจำทั่วประเทศมากกว่า 2 ล้านราย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราจะเข้าไปตั้งจุดขาย และจุดบริการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดขายที่มีศักยภาพ

อย่างไรก็ดี ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 นี้บริษัทฯ จะมีการขยายธุรกิจทั้งแนวราบ และแนวดิ่งในหลายด้าน โดยในส่วนของการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์เสริม และสินค้าแก็ตเจตต่างๆ ก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จูงใจผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งในด้านการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จำหน่ายนั้นสามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และมีความคุ้มค่าด้านราคา จึงเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังทำยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนสินค้าอีกกลุ่มหนึ่งของบริษัทฯ คือ การเป็นตัวแทนจำหน่ายอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ รูปแบบใหม่ของ AIS มีความเร็วในการอัปโหลดถึง 4 Mb นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อย่างเต็มตัว ภายใต้ชื่อ TWZ-HUB นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมความพร้อมของระบบต่างๆ ที่จะรองรับการแลกคูปองทีวีดิจิตอลที่ กสทช. จะแจกให้แก่ 22 ล้านครัวเรือนอีกด้วย โดยบริษัทฯ จะใช้ช่องทางขายที่มีอยู่ทั่วประเทศให้บริการในส่วนนี้ด้วย ซึ่งก็จะเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทฯ อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ จากธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ ดังนั้น ความพร้อมด้านเงินทุนที่แข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น บริษัทฯ จึงได้ระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมโดยออกหุ้นเพิ่มทุน 800 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 0.35 บาท และแถมวอร์แรนต์ฟรี 1 หน่วยให้แก่ 2 หุ้นเพิ่มทุนด้วย ซึ่งคาดว่าจะได้เงินเพิ่มทุน 280 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นเดิมจะต้องชำระเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคมนี้

“แม้ว่าในช่วงนี้จะมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามากระทบ แต่ทางบริษัทฯ ก็ไม่กังวลว่าหุ้นเพิ่มทุนจะขายไม่หมด เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและทิศทางในอนาคตที่สดใสของบริษัทฯ ทั้งในการขยายธุรกิจใหม่ๆ และการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้จากธุรกิจเดิม ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในคราวนี้น่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการจองซื้อ ทั้งจากราคาที่จองซื้อ และผลตอบแทนจากการแจกวอร์แรนต์ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยวอร์แรนต์ดังกล่าวมีราคาแปลงสภาพเพียง 0.30 บาท มีอายุ 3 ปี คาดว่าน่าจะได้รับความสนใจจากผู้ถือหุ้นเดิมเป็นจำนวนมาก และในคราวนี้ ทางบริษัทฯ ยังให้โอกาสผู้ถือหุ้นเดิมสามารถจองเกินสิทธิได้อีกด้วย ซึ่งหากมีการจองซื้อมามากกว่าจำนวนหุ้นที่ออก ทางบริษัทฯ ก็จะจัดสรรให้ตามสัดส่วนหุ้นเดิมที่ผู้ถือหุ้นมีอยู่ก่อนจองซื้อต่อไป”

ทั้งนี้ เงินเพิ่มทุนส่วนหนึ่ง จำนวนประมาณ 100 ล้านบาท จะนำไปใช้ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะสร้างอาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ในทำเลที่ดีมาก เนื่องจากอยู่ติดชายทะเล และใกล้เมือง ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว คาดว่าจะเปิดโครงการได้ในเดือนตุลาคมนี้ และจะแล้วเสร็จปลายปี 2558 เริ่มรับรู้รายได้ต้นปี 2559

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีสิทธิการเช่าที่ดินริมถนนรัชดาภิเษก เนื้อที่ประมาณ 6,126 ตารางเมตร เป็นทำเลที่ดีติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก ได้ก่อสร้างโฮมออฟฟิศ และอาคารสำนักงานเพื่อการพาณิชย์ และยังมีสิทธิการเช่าที่ดินแปลงติดกัน เนื้อที่อีกประมาณ 5,909.20 ตารางเมตร ซึ่งเป็นของบริษัทย่อยของ TWZ คือบริษัท ปิยะชาติ จำกัด เป็นโครงการอาคารสำนักงาน จำนวน 25 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้จากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กว่า 250 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น