ซาโลร่าครบ 2 ปี เผยมียอดซื้อขายกว่า 2 แสนออเดอร์ มียอดชมกว่า 2.5 ล้านราย แฟนเพจเฟซบุ๊กกว่า 8 แสนคน ชี้ปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 50% ส่วนปีนี้คาดโตทะลุ 100% เล็งรุกช่องทางมือถืออย่างเต็มที่ ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพแอปฯ อัดแคมเปญการตลาด หลังเห็นแนวโน้มการใช้งานช่องทางนี้เพิ่มขึ้น และที่ผ่านมามียอดขายผ่านมือถือสูงถึง 45% พร้อมจับมือกับเซเว่นฯ ช่วยในเรื่องการรับและคืนสินค้า รวมถึงยังเตรียมเปิดช่องทางออฟไลน์เพื่อช่วยสร้างการรับรู้ในแบรนด์ซาโลร่ามากขึ้น
นายโฮเซ โอเจดา กรรมการผู้จัดการ ซาโลร่า แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยนับว่ามีอัตราการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และธุรกิจของซาโลร่าก็สามารถสร้างยอดขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามียอดสั่งซื้อกว่า 2 แสนออเดอร์ต่อปี และมีลูกค้าซื้อสินค้ามากกว่า 1.5แสนราย ส่วนยอดเข้าชมเว็บไซต์ในขณะนี้มีกว่า 2.5 ล้านราย มีจำนวนแฟนเพจในเฟซบุ๊กมากกว่า 8 แสนคน
การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาซาโลร่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตมากกว่า 100% นอกจากนี้ในปัจจุบันมีการเข้าชมผ่านแอปพลิเคชันของซาโลร่าบนมือถือเพิ่มมากขึ้น โดยยอดขายมากกว่า 45% มาจากช่องทางนี้ ส่วนที่เหลือ 55% มาจากพีซี ดังนั้นซาโลร่าจึงได้ทำการปรับปรุงแอปฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานมือถือที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงจะเพิ่มงบการโฆษณาผ่านช่องทางนี้ด้วย
“ซาโลร่าเป็นศูนย์รวมการชอปปิ้งออนไลน์สำหรับสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ บริหารงานโดยบริษัท Rocket Internet เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2555 มีสินค้าแฟชั่นรวมกันกว่า 500 แบรนด์ในเซาท์อีสต์เอเชีย ส่วนเมืองไทยมีสินค้าประมาณ 300 แบรนด์ ทั้งแบรนด์นอกและแบรนด์คนไทย ปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฮ่องกง บรูไน และไทย”
นายโฮเซกล่าวว่า สำหรับการทำตลาดในปีนี้จะมีการขยายธุรกิจให้มากขึ้น ด้วยการจับมือกับพันธมิตรอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ให้ลูกค้าสามารถรับและคืนสินค้าได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้มากขึ้นและกระตุ้นการซื้อขายผ่านช่องทางนี้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมขยายช่องทางออฟไลน์อีกทางหนึ่ง โดยจะจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดปาร์ตี้ การเดินแฟชั่น การจับมือกับนิตยสารต่างๆ นอกเหนือไปจากการเน้นแผนการตลาดออนไลน์ที่ได้มีการพัฒนาบนแอนดรอยด์และไอโอเอส รวมไปถึงเป็นพาร์ตเนอร์กับไลน์ ซึ่งถือเป็นโซเชียลมีเดียยอดนิยมในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ ซาโลร่าจะเน้นการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอประสบการณ์ชอปปิ้งออนไลน์ให้เพิ่มขึ้น ด้วยช่องทางเป็นมาร์เกตเพลสซึ่งเป็นช่องทางที่จะเปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์เข้ามาเปิดชอปในเว็บของซาโลร่าได้ โดยจะทำมาร์เกตติ้งรวมไปถึงจะทำการจัดส่งให้ด้วย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าของแบรนด์ได้มีช่องทางในการขาย ซึ่งปัจจุบันมี 50 แบรนด์ของคนไทย และคาดว่าปลายปีนี้จะมีร้านค้าลักษณะนี้ 300 ร้านค้า โดยปัจจุบันมีสัดส่วนแบรนด์ไทยอยู่ในการขายของซาโลร่า 30-40%
“เราไม่เน้นการลดราคาของสินค้า เราเน้นสินค้าแฟชั่นที่เน้นการออนไลน์เหมือนห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง แต่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไป ซึ่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากเรามีสินค้าที่หลากหลาย และนำเสนอราคาที่คนไทยสามารถจับต้องได้ รวมไปถึงการมีสินค้าใหม่ๆ นำเสนออย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยในปีนี้เรามีแบรนด์ไพรเวตของเราเองในชื่อ EZRA by Zarola รวมไปถึงแบรนด์ชั้นนำที่กำลังจะนำเข้ามาอย่าง River Island จากอังกฤษ และ American Apparel จากสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้ามาเสริมให้ซาโลร่ามีสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นไปอีก”
Company Related Link :
Zalora
CyberBiz Social