อสังหาฯ ค่ายบิ๊กเนม แสนสิริ-เอสซีฯ ลุยแนวราบต่อเนื่อง ล่าสดุ แสนสิริ ส่งแบรนด์บ้านเดี่ยว บุราสิริ รุกตลาดขอนแก่น-วงหวนอ่อนนุช 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท พร้อมเปิด Pre-Visit 17-18 พ.ค. นี้ ด้านเอสซีฯ เดินหน้าเปิดโครงการใหม่บ้านพักตากอากาศติดทะเล โครงการบูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน-ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม พร้อมทยอยโอน 4 คอนโดฯ ไตรมาส 2 ปีนี้
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 17 และ 18 พ.ค. นี้ แสนสิริ มีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “บุราสิริ” 2 โครงการใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยวันที่ 17 พ.ค.นี้ จะเปิดตัวโครงการ “บุราสิริ บึงหนองโคตร ขอนแก่น” โครงการบ้านเดี่ยวริมทะเลสาบ สไตล์โมเดิร์น จำนวน 124 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการแรกในจังหวัดขอนแก่น
โดยก่อนหน้านี้ แสนสิริ ได้รุกเข้าสู่ตลาดขอนแก่นด้วยการเปิดขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ-ขอนแก่น ซึ่งสามารถปิดการขายลงอย่างรวดเร็ว ส่วนโครงการที่ 2 เดอะ เบส เทพารักษ์-ขอนแก่น รวมถึงโครงการที่ 3 เดอะ เบส ศรีจันทร์-ขอนแก่น ต่างก็ได้รับความสนใจ และมีลูกค้าให้เข้าชมโครงการอย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงการที่ 2 บุราสิริ “บุราสิริ วงแหวน-อ่อนนุช” บ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ตโครงการใหม่ในย่านถนนบางนา-ตราด จำนวน 388 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท จะเปิดตัวในวันที่ 18 พ.ค.นี้เช่นกัน
สำหรับการเปิดตัว 2 โครงการบ้านเดี่ยวดังกล่าว นอกจากจะเป็นการสานต่อความต่อเนื่องในแบรนด์ บุราสิริ แล้ว ยังเป็นการนำเสนอทางเลือกที่อยู่อาศัยในประเภทบ้านเดี่ยวให้แก่ลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โครงการบ้านเดี่ยว บุราสิริ บึงหนองโคตร ขอนแก่น เป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นครั้งแรกของแสนสิริ ในจังหวัดขอนแก่น และนับเป็นการขยายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสู่แนวราบในทำเลภาคภาคอีสานเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นว่า ขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทั้งในด้านการพัฒนาระบบคมนาคม และสาธารณูปโภคครบวงจร และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ ของภาคอีสานด้วย
นอกจากนี้ ในอนาคต ขอนแก่น ยังได้มีการจัดผังเมืองที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยใจกลางเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่ความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ที่ยังคงมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงคาดว่าบุราสิริ บึงหนองโคตร ขอนแก่น จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจากความโดดเด่นของทำเล ส่วนโครงการ บุราสิริ วงแหวน อ่อนนุช เป็นการพัฒนาโครงการเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันออกอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จจากการปิดการขายโครงการ บุราสิริ อ่อนนุช-บางนา
“ภาพรวมโครงการบ้านเดี่ยวของกลุ่มแสนสิริยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ นาราสิริ คณาสิริ และบุราสิริ เพื่อตอบรับความต้องการให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ซึ่งด้านยอดขายบ้านเดี่ยวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถทำได้แล้ว 2,848 ล้านบาท” นายเมธา กล่าว
ด้านนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า ในปีนี้มีแผนเปิดโครงการแนวราบรวม 6 โครงการ และโครงการแนวสูง 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,560 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกได้เปิดโครงการบ้านพักตากอากาศ “โครงการ บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน” มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวติดทะเลระดับพรีเมียม ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แรงบันดาลใจของบรรยากาศแบบแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี ระดับราคา 7-40 ล้านบาท ซึ่งจากการเปิดเยี่ยมชมในกลุ่มลูกค้าวีไอพี ได้รับผลตอบรับดีเกินคาดจนบ้านสร้างเสร็จไม่พอขาย โดยขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มส่งมอบ หรือโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ในวันที่ 31 พ.ค. บริษัทได้เตรียมตัวโครงการบ้านเดี่ยว “บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม” บ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ขนาดพื้นที่ 37 กว่าไร ติดถนนพุทธมณฑลสาย 4 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท จำนวน 124 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนโครงการที่เหลืออีก 5 โครงการใหม่ จะทยอยเปิดในครึ่งปีหลัง โดยบริษัทยังคงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 12,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 10,000 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 40% ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
“ปีนี้ เอสซีฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ 4 โครงการ คือ โครงการเดอะเครสท์ ซานโตรา หัวหิน, โครงการเซ็นทริค สาทร-เซ็นหลุยส์, โครงการเซ็นทริค ติวานนท์ สเตชั่น และโครงการแชมเบอร์ส รามอินทรา ซึ่งการรับรู้รายได้จากทั้ง 4 โครงการดังกล่าว จะทำให้ในปี 57 นี้บริษัทมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย”
นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 19-25 พฤษภาคมนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เป็นแคมเปญพิเศษของปี คือ “SC DAY 1 ปีมีครั้งเดียว” ด้วยข้อเสนอ “7 วันนี้ มาซื้อบ้านได้เงินกลับบ้าน รับ Cash Back สูงสุด 7 ล้านบาท” (ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนด) กับโครงการแนวราบแนวสูงรวม 26 โครงการ
