xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” สั่ง “สรรพากร” ไล่บี้กลุ่มที่ยังอยู่นอกระบบเพิ่มอีก 3 แสนราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปลัด ก.คลัง” สั่ง “สรรพากร” เร่งขยายฐานภาษีเพิ่มอีก 3 แสนราย เพื่อหารายได้โปะยอดปี 57 ที่ส่อแววว่าจะวืดเป้า 1.5 แสนล้านบาท เล็งไล่บี้กลุ่มที่ยังอยู่นอกระบบ เผยข้องใจรถใหม่เต็มถนนแต่การจัดเก็บภาษีน้ำมันไม่ขยับ สั่งขันนอต “สรรพสามิต” จัดการปิดช่องโหว่ และเพิ่มประสิทธิภาพการรีดภาษีเพื่อสูบรายได้เข้ารัฐ

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรเร่งขยายฐานภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคลในปีงบประมาณ 2558 ให้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 3 แสนราย เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น หลังจากที่ปีงบประมาณ 2557 คาดว่าการเก็บภาษีของ 3 กรมภาษี ซึ่งประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร จะต่ำกว่าเป้าถึง 1.5 แสนล้านบาท ทั้งที่มีการลดภาษีนิติบุคคลและภาษีบุคคลธรรมดา แต่ไม่สามารถทำให้คนที่อยู่นอกระบบภาษีเข้ามาเสียภาษีได้มากขึ้น จึงต้องมีการตั้งเป้าขยายฐานภาษีใหม่ให้ชัดเจน และจะกำหนดเป็นตัวชี้วัดผลงานของผู้อธิบดีกรมสรรรพากรในปีงบประมาณ 2558 ด้วย

ปัจจุบันมีผู้ยื่นแบบภาษีบุคคลธรรมดา 10.2 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ยื่นแบบ และเสียภาษีประมาณ 6 ล้านราย อย่างไรก็ตาม การลดอัตราภาษีจาก 37% เหลือ 35% และมีการซอยย่อยอัตราภาษีจาก 5 อัตรา เป็น 7 อัตรา ทำให้การเสียภาษีของบุคคลธรรมดาลดลง 25% ในส่วนของภาษีนิติบุคคลปัจจุบันมีผู้เสียภาษีประมาณ 4 แสนราย โดยผู้เสียภาษีใหม่เพิ่มขึ้นน้อย และยังมีแนวโน้มลดลงเพราะผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งปิดกิจการจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้การขยายฐานภาษีของกรมสรรพากรในส่วนของนิติบุคคลทำได้ลำบาก

“การจะทำให้การเก็บภาษีได้มากขึ้น โดยไม่การปรับเพิ่มอัตราภาษี ก็ต้องขยายฐานการเก็บภาษีให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต้องเสียภาษีแต่ยังอยู่นอกระบบ” นายรังสรรค์ กล่าว

นายรังสรรค์ กล่าวว่า ในส่วนของการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต ได้ให้ไปตรวจสอบการเก็บภาษีน้ำมันทำไมได้น้อย ทั้งๆ ที่มีรถยนต์ใหม่จากโครงการรถคันแรกถึง 1 ล้านคัน แต่การใช้น้ำมันกลับไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ จนทำให้การเก็บภาษีน้ำมันของกรมสรรพสามิตลดต่ำไปด้วย

ด้านกรมศุลกากร ได้ขอให้เน้นการปราบปรามทุจริตให้มากขึ้น เพราะการเก็บภาษีของกรมศุลกากรที่ผ่านมาไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราภาษีที่ลดลง แต่หากมีการเข้มงวดการทุจริตจะทำให้การเก็บภาษีมากขึ้น นอกจากนี้ ยังให้เร่งกรณีพิพาทภาษีให้ได้ข้อยุติ ซึ่งน่าจะทำให้กรมศุลกากรได้ภาษีส่วนที่ยังไม่ครบเข้ามาเพิ่ม ทั้งในกรณีของบริษัทโตโยต้า ในการนำชิ้นส่วนรถยนต์พีอุส และกรณีของบริษัทแอมเวย์ ซึ่งทางอธิบดีกรมศุลกากรได้รายงานว่าอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการ

นายรังสรรค์ กล่าวว่า การทำงบประมาณปี 2558 คาดว่าจะขาดดุลไม่มาก เพราะเวลาการใช้งบประมาณเหลือน้อย เนื่องจากการทำงบประมาณล่าช้าจากการเลือกตั้งช้าไม่มีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ ส่วนจะสามารถจัดทำงบประมาณสมดุลได้ในปี 2560 หรือไม่ เป็นนโยบายที่รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาตัดสินใจ

โดยก่อนหน้านี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556-มีนาคม 2557) โดยระบุว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 923,782 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 55,101 ล้านบาท หรือ 5.6% ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ และการส่งมอบรถยนต์สำหรับโครงการรถยนต์คันแรกได้เกือบครบทั้งโครงการแล้วในปีงบประมาณก่อนหน้า รวมทั้งในปีที่แล้วมีการนำส่งรายได้จากการประมูลให้ใช้คลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz จำนวน 20,843 ล้านบาท

ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,384,103 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 12,525 ล้านบาท หรือ 0.9% ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 460,321 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 60,096 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 520,417 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 130,160 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 390,257 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 213,667 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น