xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ผลิตวัสดุดิ้นปรับตัวหาตลาดใหม่ รับมือตลาดทรุดยาวจากปัญหาการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมานชัย อธิพันธุ์อำไพ
ผู้ผลิตวัสดุทดแทนไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้จริง ดิ้นปรับตัวหลังจากการเมืองฉุดตลาดทรุดยาว “ลีโอวูด” หันจับลูกค้าทั่วไปหลังลูกค้าโครงการหายมาตั้งแต่ต้นปี พร้อมส่ง “ไอวูด” ผลิตภัณฑ์ไม้จริงปลอดปัญหาปลวก-มอด ทำตลาด มั่นใจดันยอดขายทั้งปี 600 ล้านบาท ตามเป้า ด้าน “คอนวูด” หันเพิ่มยอดส่งออกชดเชยรายได้ในประเทศ สบโอกาสช่วงตลาดชะลอตัวขยายกำลังผลิต งบลงทุน 150 ล้านบาท

นายสมานชัย อธิพันธุ์อำไพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอวูด อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้พื้นไม้จริง ไม้พื้นลามิเนต และประตูไม้ เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองที่ส่งผลภาคเศรษฐกิจในระยะสั้นบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากยอดขายในปัจจุบันเป็นการสั่งซื้อจากปีที่ผ่านมา โดยบริษัทจะทยอยส่งมอบไปจนถึงต้นปี 2558 แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ home user 10% ทำตลาดผ่านช่องทางโชว์รูมที่มีอยู่ 5 แห่งทั่วกรุงเทพฯ กลุ่มตัวแทนจำหน่ายที่มีทั้งโมเดิร์นเทรด และร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ในสัดส่วน 35% และกลุ่มสุดท้ายคือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มีสัดส่วน 60% ซึ่งนับจากต้นปีที่ผ่านมา มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่น้อยมาก ทำให้บริษัทมียอดขายจากโครงการลดลงไปมาก หากไม่รีบปรับตัว หรือหาแนวทางแก้ไขยอดขายในปี 58 หลังแบ็กล็อกหมดลง จะต้องปรับลดลงมากตามไปด้วย

ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น บริษัทจึงได้หันมารุกตลาดรีเทล หรือผู้ซื้อรายย่อยมากขึ้น เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ยังคงมีการปรับปรุง และซ่อมแซมบ้านอย่างต่อเนื่องขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม ซึ่งตลาดซ่อมแซมบ้าน หรือรีนูเวส ถือเป็นตลาดใหญ่ของกลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากรีเทล และโครงการให้อยู่ในระดับ 50:50

“ที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความสำคัญแก่ตลาดรีเทลอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นตลาดใหญ่ ทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยง แต่เนื่องจากงานโครงการมีเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ต้องโฟกัสไปที่โครงการเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันงานโครงการลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ จึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะหันมารุกตลาดรีเทลอย่างเต็มที่ในปีนี้” นายสมานชัย กล่าว

นายสมานชัย กล่าวต่อว่า บริษัทจะใช้วัสดุที่ผลิตจากไม่จริงเข้ามารุกตลาดรีเทล เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการตกแต่ง หรือก่อสร้างด้วยไม้จริงที่สวยงาม และให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังมีความกังวลในการดูแลโดยเฉพาะปัญหาปลวก มอดทำลายเนื้อไม้ บริษัทฯ จึงได้ศึกษาค้นคว้าจนสามารถผลิตไม้จริงกันปลวกได้สำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไม้จริงกันปลวก ภายใต้แบรนด์ “ไอวูด” (iWood by Leowood) ซึ่งเป็นไม้จริงจากป่าปลูกที่มีการปลูกทดแทนอย่างเป็นระบบ นำมาเข้าสู่กระบวนการผลิตอบแห้ง และอัดน้ำยากันปลวกสูตรเฉพาะของไอวูด แล้วนำไม้แต่ละแผ่นมาวางสลับเสี้ยนกัน ผสานด้วยกาวสูตรพิเศษจนได้เป็นไม้จริงกันปลวกไอวูด มีอัตราการยืดหดตัวของเนื้อไม้ต่ำ มีความแข็งแกร่ง ทนทาน และผ่านกรรมวิธีการทางวิศวกรรมที่ทันสมัย ด้วยการเคลือบสียูวีอะคริลิก แล็กเกอร์ หนาถึง 8 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ทันทีภายหลังการติดตั้ง ปลอดสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และสัตว์ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า บริษัทจึงรับประกันปลวก มอด ไม่ทำลายเนื้อไม้นาน 5 ปี อีกด้วย แต่เนื้อไม้สามารถกันปลวก มอดได้นานถึง 25 ปี

ผลิตภัณฑ์ “ไอวูด” ประกอบด้วย 2 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1. ไม้ไอวูดเพื่องานตกแต่ง เช่น ไม้พื้นไม้จริงไอวูด ไม้ตกแต่งผนังไอวูด โดยไม้ตกแต่งผนังเป็นลักษณะของดีไอวายที่ผู้ใช้งานติดตั้งได้เองโดยสะดวก และสามารถเล่นลวดลายได้เองตามความต้องการ และ 2. ไม้ไอวูดเพื่องานก่อสร้าง เช่น ไม้โครงไอวูด ไม้อัดไอวูด ที่ใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ กั้นห้อง โครงสร้างภายใน ซึ่งภายในปี 2557 มีแผนขยายกลุ่มสินค้าไอวูดให้ครอบคลุมทุกตัวสินค้า ได้แก่ กลุ่มไม้บันไดกันปลวก ไม้ตกแต่ง ไม้ระแนงกันปลวก และกลุ่มไม้บันไดกันปลวก เพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

บริษัทฯ จะเน้นด้านการสร้างการรับรู้ จะสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ที่มี รวมถึงการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ และโฆษณาในนิตยสาร และจะทยอยปรับรูปแบบชั้นวางสินค้า ในร้านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายกลุ่มไอวูดไว้ที่ 80 ล้านบาท และในปี 2558 คาดหวังว่ายอดขายในส่วนของไอวูดจะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30%

นายสมานชัย กล่าวต่อว่า ภาพรวมของบริษัทฯ ในปี 2556 ที่ผ่านมาว่า มียอดขาย 480 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นไปตามเป้า โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 25 ล้านบาท โดยสำหรับปี 2557 มียอดขายในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน 10% ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้เป้าหมายในปีนี้ 600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 25% เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่เป็นการขายล่วงหน้า
สุทธิพันธ์ วัชโรภาส
“คอนวูด” เพิ่มยอดส่งออกชดเชยรายได้ในปท.

นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุทดแทนไม้แบรนด์ “คอนวูด” กลุ่มบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง กล่าวว่า จากการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงมาก อันเนื่องมาจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และปัญหาการเมือง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย

ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังตลาดวัสดุตกแต่งประเภทวัดสุทดแทนไม้ด้วย ทำให้ภาพรวมของตลาดวัสดุตกแต่งไม้ไตรมาสแรกเติบโตลดลง โดยคาดว่าปีนี้ตลาดจะเติบโตแค่ตัวเลขหลักเดียว จากช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดขยายตัวต่อเนื่องมากกว่า 20% ทุ่ม 150 ล้านบาทขยายกำลังผลิต

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทจึงปรับแผนการตลาดใหม่ หันมาขยายตลาดส่งออกอย่างจริงจังมากขึ้น โดยโฟกัสไปในตลาดอาเซียนเป็นหลัก ได้แก่ พม่า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา จากปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม โดยปี 56 ที่ผ่านมา มียอดขาย 1,530 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากลูกค้าโครงการ 60% และลูกค้าทั่วไป 40%

นอกจากนี้ เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ทุ่มเงินประมาณ 150 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิต เพิ่มไลน์ที่ 4 ในโรงงาน จ.สระบุรี จากปัจจุบันมี 3 ไลน์การผลิต และที่ผ่านมา เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 100% โดยไลน์การการผลิตที่ 4 จะมีกำลังผลิตอยู่ที่ 4.5 หมื่นตันต่อปี ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 1.8 แสนตันต่อปี คาดว่าเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ประมาณกลางปีหน้า

“ที่ผ่านมาเราเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต ทำให้ไม่สามารถขยายการผลิตได้อีก แต่ยังไม่มีโอกาสลงทุนได้ เพราะมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราอาศัยโอกาสที่ภาวะตลาดในประเทศชะลอตัว ลงทุนสร้างไลน์การผลิตที่ 4 ขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทได้ในอนาคต” นายสุทธิพันธ์ กล่าว

สำหรับยอดขายในไตรมาสแรกเติบโต 4-5% สูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากยอดขายในปัจจุบันเป็นการสั่งซื้อจากปีทีผ่านมา แต่จากจำนวนโครงการใหม่ลดลงไปมาก ทำให้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตแค่ 4-5% ต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น