กุนซือ UU ฟุ้งหลังบอร์ดบริษัทแม่อนุมัติเตรียมแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 510 ล้านบาท ตั้งเป้าระดมทุนขาย IPO 490 ล้านหุ้น เพื่อขยายธุรกิจด้านน้ำประปาครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ คาดเข้าเทรดทันไตรมาส 2/2558 เผยงานในมือล้นรับรู้รายได้เติบโตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 70% ทุ่ม 500 ล้านบาท จ่อเจรจาเข้าซื้อบริษัทน้ำประปาทั้งในและต่างประเทศ
นายนิพนธ์ บุญเดชานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด หรือ UU กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ในช่วงของการเตีรยมแปรสภาพ จากบริษัทจำกัด เป็นบริษัทมหาชน โดยอยู่ในช่วงของการยื่นเสนอต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายได้ภายในไม่เกินไตรมาสที่ 2/2558 และตั้งเป้าในการระดมทุนขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO จำนวน 490 หุ้น ทั้งนี้บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วจำนวน 510 ล้านบาท
บริษัทยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัดเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ EASTW โดยบริษัทดำเนินธุรกิจในด้านการประปาและบริหารระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้งในรูปสัญญาสัมปทาน สัญญาจ้างบริหาร และสัญญาเช่าบริหารครอบคลุ่มภูมิถาคต่างๆทั่วประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯอยู่ในช่วงของการยื่นเสนอจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ต่อ ก.ล.ต. โดยมีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 510 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายหุ้น IPO ได้ภายในไตรมาสที่ 2 /2558
อย่างไรก็ดีบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจในปี 2557 ไว้ไม่ต่ำกว่า 70% หรือคิดเป็นรายได้สุทธิประมาณ 1,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิประมาณ 140 ล้านบาท จากงานในมือที่รับรู้รายได้กว่า 20 โครงการ เช่น บริหารกิจการประปา บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการประปานครสวรรค์ ประปาบ่อวิน ประปาสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประปาระยอง บริหารระบบผลิตน้ำประปาจากน้ำทะเล ได้แก่ประปาเกาะสีชัง ประปาเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ประปาเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประปาราชบุรี-สมุทรสงคราม ประปาจังหวัดภูเก็ต โครงการบริหารจัดการน้ำสูญเสีย เขตพื้นที่ ปทุมธานี-รังสิต พื้นที่อ้อมน้อย-สามพราน-สมุทรสาคร พื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการน้ำด้านอื่นๆเช่น โครงการบริหารระบบบำบัดน้ำเสียพัทยา และห้องปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการบำบัดน้ำเสียในเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว มูลค่าโครงการประมาณ 500-800 ล้านบาท และโครงการน้ำประปาที่เมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาว มูลค่าโครงการประมาณ 500-800 ล้านบาท อีกทั้งโครงการระบบกรองน้ำในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทฯเตรียมยื่นเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกิจการน้ำ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอีกอย่างน้อย 4 บริษัท ซึ่งใช้เงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในประเทศ 2 โครงการด้านการสัมปทานน้ำประปาและบำบัดน้ำเสีย และบริษัทที่มีโครงการในต่างประเทศ 2 โครงการคือ บริษัทการจัดการระบบโรงกรองน้ำ ในเมืองลองอัน ประเทศเวียดนาม และบริษัทบริหารจัดการประปาในเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งทั้ง 4 โครงการคาดว่าจะสามารถสรุปได้อย่างน้อยไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
นายนิพนธ์ บุญเดชานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด หรือ UU กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ในช่วงของการเตีรยมแปรสภาพ จากบริษัทจำกัด เป็นบริษัทมหาชน โดยอยู่ในช่วงของการยื่นเสนอต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายได้ภายในไม่เกินไตรมาสที่ 2/2558 และตั้งเป้าในการระดมทุนขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO จำนวน 490 หุ้น ทั้งนี้บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วจำนวน 510 ล้านบาท
บริษัทยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัดเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ EASTW โดยบริษัทดำเนินธุรกิจในด้านการประปาและบริหารระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้งในรูปสัญญาสัมปทาน สัญญาจ้างบริหาร และสัญญาเช่าบริหารครอบคลุ่มภูมิถาคต่างๆทั่วประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯอยู่ในช่วงของการยื่นเสนอจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ต่อ ก.ล.ต. โดยมีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 510 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายหุ้น IPO ได้ภายในไตรมาสที่ 2 /2558
อย่างไรก็ดีบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจในปี 2557 ไว้ไม่ต่ำกว่า 70% หรือคิดเป็นรายได้สุทธิประมาณ 1,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิประมาณ 140 ล้านบาท จากงานในมือที่รับรู้รายได้กว่า 20 โครงการ เช่น บริหารกิจการประปา บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการประปานครสวรรค์ ประปาบ่อวิน ประปาสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประปาระยอง บริหารระบบผลิตน้ำประปาจากน้ำทะเล ได้แก่ประปาเกาะสีชัง ประปาเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ประปาเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประปาราชบุรี-สมุทรสงคราม ประปาจังหวัดภูเก็ต โครงการบริหารจัดการน้ำสูญเสีย เขตพื้นที่ ปทุมธานี-รังสิต พื้นที่อ้อมน้อย-สามพราน-สมุทรสาคร พื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการน้ำด้านอื่นๆเช่น โครงการบริหารระบบบำบัดน้ำเสียพัทยา และห้องปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการบำบัดน้ำเสียในเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว มูลค่าโครงการประมาณ 500-800 ล้านบาท และโครงการน้ำประปาที่เมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาว มูลค่าโครงการประมาณ 500-800 ล้านบาท อีกทั้งโครงการระบบกรองน้ำในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทฯเตรียมยื่นเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกิจการน้ำ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอีกอย่างน้อย 4 บริษัท ซึ่งใช้เงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในประเทศ 2 โครงการด้านการสัมปทานน้ำประปาและบำบัดน้ำเสีย และบริษัทที่มีโครงการในต่างประเทศ 2 โครงการคือ บริษัทการจัดการระบบโรงกรองน้ำ ในเมืองลองอัน ประเทศเวียดนาม และบริษัทบริหารจัดการประปาในเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งทั้ง 4 โครงการคาดว่าจะสามารถสรุปได้อย่างน้อยไตรมาสที่ 4 ของปีนี้