ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ร่วมเทศบาลกะรน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเวทีประชาคมกระตุ้นจิตสำนึกทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหาน้ำเสีย ขยะ พื้นที่กะรน
เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (8 เม.ย.) ที่บริเวณลานวัดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้มีการเปิดเวทีประชาคม เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำเสียในพื้นที่บริเวณชายหาดกะรน โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ร่วมเวทีสะท้อนปัญหา และร่วมกันหาแนวทางแก้ไข พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ปัญหา เพราะมีน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียเกินขีดความสามารถที่รองรับได้เพียงวันละ 6,000 ลบ.ม.แต่มีน้ำเสียเกิดขึ้นวันละ 9,000 ลบ.ม. ขณะที่เทศบาลตำบลกะรน อยู่ระหว่างการของบเพื่อสร้างระบบบำบัดระยะที่ 2 จำนวนประมาณ 390 ล้านบาท เพื่อให้รองรับน้ำเสียได้เต็มพื้นที่ คาดว่าจะได้งบในปี 2560
นายไมตรี กล่าวภายหลังร่วมเวทีประชาคม ว่า การเปิดเวทีประชาคมในวันนี้เน้นเรื่องของสิ่งแวดล้อม คือ ปัญหาน้ำเสีย กับขยะเป็นสำคัญ ปัญหาน้ำเสียจากคลองหนองหานไหลออกสู่ทะเลที่เกิดขึ้น และเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ถ้าเกิดขึ้นอย่างนี้ต่อเนื่องจะเป็นภาพเชิงลบ เราก็จะขจัดภาพเชิงลบเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป
โดยการแก้ปัญหาในระยะสั้น จะมีการขุดลอกคูคลองเอาตะกอนที่เกิดจากน้ำเสียออกไป ทำตะข่ายดักขยะ ทำถุงทรายกั้นเป็นบันไดเพื่อให้ตะกอนนอนก้น เพื่อให้น้ำดีผ่านไป ดักน้ำที่เกิน 6,000 ลบ.ม. แล้วสูบน้ำไปเก็บในแก้มลิงบริเวณข้างๆ คลอง เพื่อที่จะทำการบำบัดในแก้มลิงนั้น คือ เราจะไม่ปล่อยลงไปในทะเล หากน้ำไม่ใส และสุดท้ายคือ การจัดให้มีเวทีประชาคมรับฟังความเห็นเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้แก่ทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม วันนี้ทางเทศบาลฯ ก็จะมีการบังคับใช้กฎหมายกับสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งมีจำนวน 593 แห่ง ในเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย นอกจากนี้ ให้อาสาสมัครออกไปนิเทศตามบ้านในเรื่องของการดักไขมัน ของเสีย ขยะ ไม่ให้ลงสู่แหล่งน้ำ โดยจะมีอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของจังหวัด หรือ ทสม.มาช่วยฝึกให้แก่ผู้นำชุมชนที่อาสามาทำหน้าที่ตรงนี้ เชื่อว่านี่จะเป็นการสร้างกระแสที่ดีที่สุด และถ้าทุกคนทำได้ก็จะลดปัญหาลงได้ในทันที
ขณะที่การแก้ปัญหาระยะกลาง ทางเทศบาลฯ ได้ตั้งงบ 30 ล้านบาท ในการปรับปรุงระบบบำบัดที่มีอยู่ปัจจุบัน เพื่อให้สามารถรับน้ำได้มากกว่า 6,000 ลบ.ม. และการแก้ปัญหาระยะยาวคือ การสร้างระบบบำบัดน้ำเสียระยะที่ 2 ใช้งบก่อสร้างประมาณ 390 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างของบประมาณ นายไมตรี กล่าวในที่สุด