ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เร่งแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองบางเทา ให้กลับมาปกติภายใน 2 สัปดาห์ สั่ง อบต.อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม ภาค 15 หาต้นตอของน้ำเน่าเสีย ที่เป็นทั้งโรงแรม และร้านค้าทั้งหมดที่อยู่ริมคลอง พร้อมขุดลอกตะกอน และใส่ EM หวังให้น้ำใส และไม่มีกลิ่นเหม็น หวั่นปล่อยไว้นักท่องเที่ยวขาดความมั่นใจลงเล่นน้ำทะเล ด้านสิ่งแวดล้อมระบุน้ำเน่าจริงๆ ค่าบีโอดีสูงกว่ามาตรฐาน
จากกรณีที่ผู้ประกอบการเรือประมงพื้นบ้านอ่าวบางเทา หมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ร้องเรียนว่ามีน้ำเน่าเสียจากคลองบางเทาไหลลงทะเล ที่บริเวณชายหาดบางเทา ทำให้น้ำทะเลมีสีดำ และมีกลิ่นเหม็น รวมทั้งเมื่อลงไปเล่น หรือสัมผัสกับน้ำทะเลในบริเวณดังกล่าวแล้วจะทำให้เกิดอาคารคันตามผิวหนัง ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (12 เม.ย.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ต อุตสาหกรรมภูเก็ต เข้าตรวจสอบสภาพน้ำเน่าเสียที่บริเวณคลองอ่าวบางเทา หมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ภูเก็ต ซึ่งมีผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และบ้านเรือนบริเวณดังกล่าวร่วมสังเกตการณ์ด้วย
โดยสภาพน้ำในคลองอ่าวบางเทา มีสีดำ และส่งกลิ่นเหม็นที่เกิดจากการหมกหมมของสิ่งปฏิกูลที่ไหลลงสู่คลองบางเทา ทั้งที่เป็นสถานประกอบการ และโรงแรม เนื่องจากตลอดแนวคลองบางเทา มีโรงแรมประมาณ 10 แห่ง และสถานประกอบการที่เป็นร้านอาหาร ร้านซักรีด และอื่นๆ ถึง 18 ราย โดยน้ำที่มีสีดำ และกลิ่นหมิ่นจากคลองเบาเทาได้ไหลลงทะเล ทำให้น้ำทะเลในบริเวณที่น้ำจากคลองเบาเทาไหลลงไปนั้นมีสภาพเป็นสีดำ และมีกลิ่นเหม็น ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว แต่ถัดออกไปจากจุดดังกล่าวประมาณ 50-100 เมตร จะมีนักท่องเที่ยวลงมานอนอาบแดด และเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
อย่างไรก็ตาม นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายมาแอน สำราญ นายก อบต.เชิงทะเล ได้ตรวจสภาพน้ำเน่าเสียตั้งแต่บริเวณที่เป็นต้นน้ำ ไปจนถึงจุดที่น้ำเน่าเสียไหลลงทะเล พร้อมทั้งใช้น้ำบริเวณดังกล่าวล้างหน้า และลูบตามแขนเพื่อยืนยันว่าน้ำดังกล่าวไม่เป็นอันตรายหากลงไปเล่นน้ำทะเลในบริเวณนั้น และทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และผู้ประกอบการที่อยู่ริมคลองบางเทา เพื่อให้ช่วยกันดูแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย ซึ่งนายจิตติ สุรินทร์ ยอมรับว่าน้ำในคลองบางเทามีกลิ่นเหม็นจริง และคาดว่าสาเหตุน่าจะมีจากบ่อพักน้ำเสียของ อบต.เชิงทะเล มากกว่าที่จะมาจากจุดอื่นๆ
นายไมตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองบางเทาวันนี้ ทำให้พอจะคาดได้ว่าน้ำเสียน่าจะมีจากหลายส่วนด้วยกัน ทั้งในส่วนของโรงแรมที่ตั้งอยู่ในบริเวณคลองบางเทา ที่มีประมาณ 10 แห่ง ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ต ลงมาตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของโรงแรมทั้ง 10 แห่ง ว่า ระบบบำบัดน้ำเสียสามารถทำงานได้ครอบคลุมหรือไม่ และรายงานให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบภายใน 2 สัปดาห์ เพราะก่อนหน้านี้ ระบบบำบัดของโรงแรมแห่งหนึ่งชำรุด แต่ขณะนี้ทราบว่าได้มีการช่อมแซมแล้วเสร็จ
ในส่วนของร้านอาหาร ร้านซักรีด และร้านอื่นๆ ที่อยู่บริเวณริมคลองอ่าวบางเทา 18 ร้านนั้น ได้มอบหมายให้ อบต.เชิงทะเล ใช้กฎหมายในการบังคับใช้อย่างเข้มงวด เพราะทราบว่ามีเพียง 8 ร้านเท่านั้นที่จดทะเบียนถูกต้อง ทาง อบต.สามารถใช้ พ.ร.บ.สาธารณสุขในการดูแลเรื่องการปล่อยน้ำเสีย และอีก 10 แห่ง ยังไม่ดำเนินการ ซึ่งร้านเหล่านี้จะต้องเข้าสู่ระบบทั้งหมด และได้มอบหมายให้สาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบสภาพน้ำที่บ่อยออกมาจากร้านค้าดังกล่าวทุกสัปดาห์ และรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้แก่ผู้ประการ และชาวบ้านที่ที่อยู่ริมอ่าวบางเทาด้วย
สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะทำให้น้ำใสขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็นนั้น ได้มอบหมายให้ อบต.เชิงทะเล ขุดลอกตะกอนให้อ่าวบางเทา ทำที่ดักดินตะกอน 6-7 จุด ตั้งแต่ต้นน้ำเป็นต้นมา ซึ่งจะทำทั้งแบบกระสอบ และแบบไม้ หลังจากดักตะกอนได้แล้วก็จะดูดขึ้นมา รวมทั้งใส่ EM เหลวลงไป ซึ่งคาดว่าในระยะอันใกล้นี้น้ำในคลองอ่าวบางเทาจะใส่ขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็น เพราะสภาพน้ำในคลองบางเทาที่เห็นอยู่ในขณะนี้มีสีดำจากตะกอนท้องรางที่ทับถมกันเป็นจำนวนมาก และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในการเล่นน้ำทะเลที่หาดบางเทา จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนภายใน 2 สัปดาห์นี้
นายไมตรี กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาในระยะปานกลาง และระยะยาวนั้น ทาง อบต.เชิงทะเล ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 300 กว่าล้านบาท ในการสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าประมาณ 30% จากที่การดำเนินงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างล่าช้า และทางจังหวัดภูเก็ต ได้จัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์จังหวัดอีก 15 ล้านบาท ในการก่อสร้างเขื่อนริมคลองบางเทา เพื่อป้องกันดินไสด์ การปล่อยน้ำเสียลงคลอง และการบุกรุก
ด้านนายครรชิต สุนทรากร นักวิชาการสิ่งแวดล้อม สำนักสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 15 ภูเก็ต ระบุว่า น้ำในบริเวณคลองอ่าวบางเทานั้นเน่าเสีย และมีกลิ่นเหม็น รวมทั้งมีสีดำ เพราะจากการวัดค่าบีโอดีของน้ำดังกล่าว ค่าบีโอดีเกินมาตรฐานมาก ซี่งโดยปกติแล้วน้ำตามธรรมชาติจะต้องมีค่าบีโอดีไม่เกิน 2 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่น้ำในคลองบางเทา ที่บริเวณต้นน้ำนั้นมีค่าบีโอดีถึง 10 มิลลิกรัมต่อลิตร และที่บริเวณปลายน้ำที่ไหลลงหาดและทะเลอยู่ที่ประมาณ 5 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งจุดนี้จะต้องแก้ไข เพราะน้ำดังกล่าวได้ไหลลงชายหาดและทะเล ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก
ขณะที่นายมาแอน สำราญ นายก อบต. เชิงทะเล กล่าวว่า ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองอ่าวบางเทาเป็นปัญหาเดิมๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นเหมือนกัน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สาธารณสุข อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และ อบต. ได้ร่วมกันแก้ปัญหาโดยการขุดลอกตะกอนในคลองออกไป ปีนี้ปัญหาดังกล่าวก็กลับมาอีก ซึ่งในส่วนนี้หลายหน่วยงานได้เฝ้าระวังเรื่องการปล่อยน้ำเสีย ทั้งในส่วนของโรงแรมที่มีอยู่ 10 แห่ง ร้านค้าต่างๆ อีก 18 แห่ง ที่ได้ดัดแปลงจากบ้านที่อยู่อาศัย มีทั้งร้านอาหาร บาร์ ร้านซักรีด ฯลฯ มีเพียง 8 ร้าน ที่จดทะเบียนถูกต้อง และอีก 10 ร้านที่ยังไม่ดำเนินการ ซึ่งทาง อบต.จะให้ร้านที่เหลือทั้งหมดเข้าสู่ระบบเพื่อให้สามารถควบคุมได้
โดยทาง อบต.จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย มีสีดำ และมีกลิ่นเหม็นให้หมดไปภายใน 2 สัปดาห์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ทางผู้ว่าฯได้สั่งการ โดยเร่งขุดลอกตะกอนในคลองออกทั้งหมดไม่ให้ไหลลงทะเล ส่วนระยะยาวกำลังก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งล่าช้าไป 1 ปี เมื่อเสร็จแล้วคาดว่าจะสามารถรองรับน้ำเสียได้ทั้งระบบ