เสนาดีเวลลอปเม้นท์ แจงยิบการจ่ายเงินปันผลลด

“เสนาดีเวลลอปเม้นท์” แจงยิบเหตุปรับลดการจ่ายเงินปันผล จากหุ้นละ 0.151 บาท เหลือเพียงจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.103 บาท หรือจ่ายลดลงหุ้นละ 0.048 บาท คิดเป็นลดลงหุ้นละ 31.79% เพราะนำตัวเลขจ่ายครึ่งปีหลังมาบวกกับครึ่งปีแรก ส่งผลให้ผิดพลาดเป็น 0.199 บาทต่อหุ้น

บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้บริษัทชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่บริษัทแก้ไขอัตราการจ่ายเงินปันผล ประจำปี 56 ซึ่งรายละเอียดรายละเอียดปรากฏตามข่าวตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 21 เมษายน 57 นั้น บริษัทขอเรียนชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

1.สาเหตุที่บริษัทมีการแก้ไขอัตราการจ่ายเงินปันผลจากเดิมที่ประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.151 บาท เหลือเพียงจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.103 บาท หรือจ่ายลดลงหุ้นละ 0.048 บาท คิดเป็นลดลงหุ้นละ 31.79%

 บริษัทชี้แจงว่า ในการจ่ายเงินปันผลครั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 1/2557 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 57 มีนโยบายจ่ายเงินปันผล 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยในงบการเงินรวมบริษัท ประจำปี 56 มีกำไรสุทธิ 269.74 ล้านบาท คิดเป็นเงินปันผลที่ต้องจ่ายโดยคำนวณจาก 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม เท่ากับ 107.92 ล้านบาท หรือในอัตราหุ้นละ 0.151 บาท โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วในอัตราหุ้นละ 0.048 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34.31 ล้านบาท และคงเหลือจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.103 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 73.61 ล้านบาท โดยบริษัทไม่ได้มีการจ่ายเงินปันผลลดลงไปจากนโยบายของบริษัทที่กำหนดไว้

ส่วนสาเหตุที่ทำให้บริษัทต้องมีการแก้ไขอัตราการจ่ายเงินปันผลจากเดิมที่ประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.151 บาท เหลือเพียงจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.103 บาท ก็เพื่อให้มีความถูกต้องตามนโยบายจ่ายเงินปันผล และถูกต้องตามตัวเลขที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 57 และบริษัทได้เผยแพร่ในงบการเงินของบริษัท ณ 31 ธันวาคม56 ด้วยตัวเลข 0.151 บาทต่อหุ้นนั้น เป็นตัวเลขที่ต้องจ่ายปันผลทั้งปี 56 ซึ่งเมื่อหักออกจากเงินปันผลที่บริษัทจ่ายออกไปงวดครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.56) 0.048 บาทต่อหุ้นแล้ว จะคงเหลือเพียง 0.103 บาทต่อหุ้น ที่ต้องจ่ายเพิ่มในครึ่งปีหลัง (ก.ค.-ธ.ค.56) แต่เนื่องจากความผิดพลาดของทีมงานที่เข้าใจไม่ถูกต้องตรงกัน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเลข 0.151 บาทต่อหุ้นนั้น เป็นการจ่ายของงวดครึ่งปีหลัง จึงนำมาบวกเพิ่มกับยอดที่จ่ายครึ่งปีแรก 0.048 บาทต่อหุ้น จึงทำให้ข้อมูลการจ่ายเงินปันผลประจำปี 56 ผิดพลาดเป็น 0.199 บาทต่อหุ้น และนี่ก็คือที่มาของการให้ข่าวที่ผิดพลาดไป ส่วนมูลค่าเงินปันผลที่บริษัทจ่ายทั้งปีนั้นเป็นไปตามนโยบายจ่ายเงินปันผลของบริษัท 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม (ตามหมายเหตุงบการเงินสิ้นสุด 31 ธันวาคม 56 ข้อที่ 31)

ดังนั้น บริษัทชี้แจงว่าบริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผลลดลงจากนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัทแต่อย่างใด โดยบริษัทยังคงจ่ายเงินปันผลที่อัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม แต่สาเหตุหลักของการผิดพลาดครั้งนี้เกิดจาก Human Error ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของทีมงานในการสื่อสารข้อมูลจนกระทั่งเผยแพร่อัตราเงินปันผลออกไป

2.เหตุใดบริษัทจึงเพิ่งพบข้อผิดพลาด และแจ้งแก้ไขอัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ลงทุนทั่วไปในวันที่ 18 เมษายน 57 เวลา 18.20 น. ทั้งๆ ที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล ประจำปี 56 ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 57 บริษัทชี้แจงว่า สาเหตุที่บริษัทเพิ่งตรวจพบข้อผิดพลาด และแจ้งแก้ไขอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าช้า เนื่องจากการทำงานที่ไม่รอบคอบของทีมงาน ที่มิได้สอบทานข้อมูลหลังจากนั้นอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งมีฝ่ายงานที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 57 ที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 57 จึงพบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องซึ่งผิดเพี้ยนไปจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 57 บริษัทจึงได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงแจ้งแก้ไขข้อมูลที่ถูกต้องให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และนักลงทุนทั่วไปรับทราบล่าช้า

3.ความเห็นของคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทเกี่ยวกับการแจ้งข้อมูลการจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังที่ผิดพลาดดังกล่าว และแนวทางป้องกันมิให้เกิดปัญหาดังกล่าวในอนาคต

บริษัทชี้แจงว่า สำหรับการดำเนินการของบริษัทเมื่อพบข้อผิดพลาดในเบื้องต้นบริษัทจึงรีบรายงานตรงต่อกรรมการบริษัทที่มีอำนาจตัดสินใจ ได้แก่ นายวิเชียร รัตนะพีระพงศ์ ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการตรวจสอบ นายธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานกรรมการบริหาร ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ และนางวีรพร ไชยสิริยะสวัสดิ์ กรรมการและเลขานุการบริษัท และเมื่อได้รายงานความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้วคณะกรรมการบริษัทจึงมีดำริให้ดำเนินการแก้ไขและแจ้งแก่นักลงทุนทราบโดยด่วน พร้อมกับมอบหมายให้ นางวีรพร ไชยสิริยะสวัสดิ์ ร่วมหารือกับสำนักงาน วงศ์คณิตการบัญชี ซึ่งเป็น Internal Audit ของบริษัท เพื่อเพิ่มมาตรการในการปฏิบัติงานให้รัดกุมยิ่งขึ้นพร้อมให้มีการทบทวนแผนการปฏิบัติงานใหม่ และแนวทางแก้ไขการปฏิบัติงานเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งได้มีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานเป็นลำดับขั้น โดยกำหนดผู้ปฏิบัติงานลำดับที่ 1 ลำดับที่ 2 และกำหนดผู้สอบทานซึ่งต้องเป็นคนละคนกับผู้ปฏิบัติงานเพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูลออกไป ทั้งนี้ จะนำรายงาน และแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 57 และบริษัทยังได้เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงหากมีนักลงทุนสอบถามเพิ่มเติมในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 57 บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต และขอให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในอนาคตของบริษัท ซึ่งบริษัทจะมีการกำกับดูแลให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น