“ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น” ผู้นำด้าน Built to Suit คลังสินค้า-ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมียม จับมือ “กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง” ตั้งบริษัทย่อย 4 แห่ง ลุยโครงการโซลาร์รูฟ ท็อป พร้อมเริ่มต้นขายไฟฟ้า (COD) ให้ กฟน.และกฟภ. จำนวน 34.3 เมกะวัตต์ ภายในเดือนพฤษภาคม 2557 นี้ รวมกับกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 0.97 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ รวมทั้งสิ้น 4.2 เมกะวัตต์ ทำให้เตรียมรับรู้รายได้ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 440 ล้านบาท ผู้บริหาร WHA พร้อมรองรับโครงการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ไม่ต่ำว่า 60 เมกะวัตต์
นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้าน Built to Suit คลังสินค้า-ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมียม เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จำหน่าย โดยได้ร่วมทุนกับบริษัทกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น จำนวน 4 บริษัท ประกอบไปด้วย 1.บริษัทดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซลาร์รูฟ 1 จำกัด กำลังการผลิต 636.48 กิโลวัตต์ 2.บริษัทดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซลาร์รูฟ 3 จำกัด กำลังการผลิต 832.32 กิโลวัตต์ 3.บริษัทดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซลาร์รูฟ 6 จำกัด กำลังการผลิต 832.32 กิลโลวัตต์ และ 4.บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซลาร์รูฟ 17 จำกัด กำลังการผลิต 997.56 กิโลวัตต์ โดยบริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนแต่ละรายในสัดส่วน 75% นอกจากการขายไฟฟ้า จำนวน 3.3 เมกะวัตต์ ให้แก่ กฟน. และ กฟภ.ดังกล่าวแล้ว ยังได้รับใบอนุญาตการขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement; PPA) จาก กฟน. อีกจำนวน 979.20 กิโลวัตต์ ภายใต้บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซลาร์รูฟ 10 จำกัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน แต่อาจจะใช้เวลาในการดำเนินการมากกว่าปกติ เนื่องจากการบริหารจัดการภายในคลังสินค้าของผู้เช่ามีความซับซ้อน และคาดว่าจะจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟน.เพิ่มเติม ภายในปี 2557 นี้
ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนทั้งหมดจะเช่าพื้นที่หลังคาของอาคารคลังสินค้า และโรงงานของบริษัทฯ หรือบริษัทในเครือของบริษัทเป็นพื้นที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ WHA ได้รับรายได้ค่าเช่าจากการปล่อยเช่าพื้นที่หลังคาเพิ่มเติมอีกด้วย โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะลงทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์
นายแพทย์สมยศ กล่าวต่อว่า บริษัทกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ถือเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และศักยภาพทางด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพ และสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทในอนาคตอีกทางหนึ่ง โดยขณะนี้เตรียมเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (COD) จำนวน 34.3 เมกะวัตต์ ให้แก่ทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป และอีกจำนวน 972.20 กิโลวัตต์ ภายในสิ้นปี 2557 นี้ รวมทั้งสิ้น 4.2 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะมีรายได้ปีละกว่า 40 ล้านบาท
“โครงการดังกล่าวจะช่วยเสริมศักยภาพ และสร้างการเติบโตให้แก่เราอีกทางหนึ่ง ซึ่งบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ก็ถือว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการแข่งขันของ GUNKUL ให้สูงขึ้น รวมถึงรายได้ที่จะเพิ่มเข้ามามากขึ้นในอนาคต”
นายแพทย์สมยศ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการลงทุนโครงการโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งหากทางรัฐบาลได้เปิดให้ยื่นประมูลอีก บริษัทฯ ก็มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลในโครงการ โดยปัจจุบันมีโครงการคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าที่พร้อมสามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้ไม่ต่ำกว่า 60 เมกะวัตต์