หลังที่เราสะสมซื้อทองคำไปบริเวณ $1,200 เหรียญ หรือต่ำกว่าไปเมื่อปลายปีก่อน ราคาได้ขึ้นไปถึงเป้าหมายให้ขายทำกำไร 2 สเต็ป คือ $1,295 และ $1,355 เหรียญ แต่ก็ถือว่าราคาที่ขายอาจจะไม่ใช่ราคาที่ดีที่สุด เพราะหลังจากนั้น ทองคำโลกวิ่งขึ้นไปถึง $1,392 เหรียญเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยประเด็นที่ตลาดเก็งกำไรราคาทองคำพุ่งขึ้นไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคมก็เป็นเรื่องความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ล่าสุด ราคาร่วงลงมา $1,293 เหรียญ จากประเด็นความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตราว 6 เดือนหลังจากหยุดมาตรการ QE ในช่วงปลายปีนี้
แต่จากการเปิดเผยมุมมองด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากทางเฟดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า คุณเยเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันเริ่มที่จะไม่พูดถึงเงื่อนเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหมือนตอนประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมา ที่บอกว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหลังลดคิวอีเสร็จสิ้นไปราว 6 เดือน แต่กลับมาพูดถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดอยากเห็นที่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ เดือนมีนาคมระดับเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ที่ 1.5 เปอร์เซ็นต์
การที่เงินเฟ้อต่ำบ่งบอกถึงประชากรในประเทศสหรัฐฯ ยังไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยมากเท่าไหร่ เงินหมุนจากแรงซื้อของภาคประชาชนยังไม่กลับมา แสดงถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวตามที่เฟดหวังไว้ ตัวนี้แหละที่จะเป็นเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เฟดอาจต้องลดขนาดคิวอีน้อยลงกว่าที่คาด หรืออาจจะไม่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วอย่างที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ ที่ประชากรยังไม่กล้าซื้อส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหลายคนยังเครดิตติดลบเพราะอาจจะล้มละลาย หรือเครดิตเสียไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงซับไพรม์ ซึ่งมีจำนวนมากพอสมควรที่ไม่สามารถแบกภาระการชำระหนี้จากการผ่อนบ้านที่พวกเค้าเก็งกำไรในช่วงปี 2008 จนทำให้ต้องยอมปล่อยให้ตัวเองเสียเครดิตไป กว่ากลุ่มคนพวกนี้จะมีเครดิตกลับมาอีกครั้ง เลยอาจทำให้เฟดต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวังในการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าปรับเร็วเกินไป ตลาดอาจช็อกจนยิ่งทำให้เงินฝืดไปกันใหญ่ บางคนอาจบอกว่า ตัวเลขการว่างงานก็ลดลงใกล้เป้าหมายที่เฟดตั้งไว้แล้วก็เป็นอีกตัวที่จะกดดันให้เฟดอาจตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น แต่ถ้าไปดูไส้ในของอัตราว่างงานที่น้อยลงนั้น คนที่ได้งานทำแล้วแต่เป็นงานชั่วคราว หรือพาร์ตไทม์ก็ยังเยอะอยู่พอสมควร และในอัตราว่างงานนั้น จำนวนมากในนั้นที่เป็นพวกว่างงานที่เรื้อรัง หรือว่างงานเกิน 6 เดือน
ทำให้มองว่าราคาทองคำบริเวณ $1,260-1,270 เหรียญหรือต่ำกว่า เป็นจุดที่ควรเข้าไปทยอยสะสมทองคำคืนมาหลังขายไปก่อนหน้านี้ที่ราคาสูง เพราะเฟดมีโอกาสที่จะพลิกกลับมาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาอีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็อาจจะเลื่อนลดขนาดคิวอี หรือลดในขนาดที่น้อยกว่าตลาดคาด เท่านี้ก็น่าจะเกิดแรงซื้อทองคำให้ดีดได้ 50-100 เหรียญเป็นอย่างน้อย
ทางเทคนิค ราคาบริเวณ $1,260-1,277 เหรียญก็ถือเป็นบริเวณที่มีแนวรับหลายๆ อย่างอยู่ เพราะฉะนั้นการเข้าซื้อทองคำคืนบริเวณนี้ถือว่าน่าจะเป็นราคาที่ได้เปรียบเมื่อเทียบความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่เราจะได้
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก