“สุธากัญจน์” เทรดวันแรกนักลงทุนตอบรับดี ราคาพุ่งแตะ 4 บาท จากราคาจอง IPO ที่หุ้นละ 3.70 บาท ก่อนมาปิดที่ 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 67.57% เผยระดมทุน 1,110 ล้านบาท นำเงินที่ได้ไปใช้ขยายกำลังการผลิตลงทุนในระบบ และเครื่องบดถ่านหิน และธุรกิจเผาหินปูนเป็นปูนขาวร้อน ในประเทศอินโดนีเซีย
วันนี้ (3 เม.ย.) หุ้นของบริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) หรือ SUTHA เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก และเมื่อเปิดตลาดพบว่าราคาหุ้นเทรดที่ 4 บาท บวกเพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 8.11% มูลค่าซื้อขายที่ 170.25 ล้านบาท จากราคาหุ้น IPO ที่หุ้นละ 3.70 บาท และปิดตลาดที่ราคา 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท คิดเป็น 67.57% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2,639.65 ล้านบาท ระหว่างวันปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 6.20 บาท ต่ำสุดที่ 3.94 บาท
นายเกียรติกุล มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สุธากัญจน์ หรือ SUTHA กล่าวว่า บริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้ไปใช้ขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศในอนาคต ลงทุนจัดซื้อในเครื่องบดถ่านหิน และที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปูนขาว โดยฯ บริษัทได้ทำบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement) กับบริษัทในกลุ่มของรัฐวิสาหกิจผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่รายของอินโดนีเซีย เพื่อจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint
Venture) ที่จะดำเนินธุรกิจเผาหินปูนเป็นปูนขาวร้อน (Quick lime) ในประเทศอินโดนีเซีย
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า บมจ.สุธากัญจน์ หรือ SUTHA จะอยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนลำดับที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้ ซึ่ง SUTHA ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทปูนขาว (แคลเซียมออกไซด์ และแคลเซียมไฮดรอกไซด์) แคลเซียมคาร์บอเนต สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการในหลาก
หลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก เคมี น้ำตาล เหมืองแร่ เยื่อและกระดาษ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 โดยในปี 53-55 และมีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 65% ต่อปี แต่กำไรปี 56 ลดลง 10% จากราคาขายที่ลดลง และต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม ส่วนปี 2557 คาดกำไรที่เพิ่มขึ้น 23% เป็น 124 ล้านบาท จากการขยายการผลิตแคลเซียมไฮดรอกไซด์ และติดตั้งเตาเผาในการผลิตปูนขาวที่อินโดนีเซีย โดยปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิ 100.88 ล้านบาท ลดลงจากกำไร 112 ล้านบาทในปี 2555
