xs
xsm
sm
md
lg

“เอดีบี” คาด “ศก.ไทย” ปี 57 โตได้แค่ 2.9% ลุ้นได้ “รบ.ใหม่” ครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอดีบี” คาดแนวโน้ม “จีดีพี” ของไทยปีนี้เติบโตได้แค่ 2.9% โดยมีผลกระทบจากปัญหาการเมือง พร้อมคาดหวังไทยมีรัฐบาลใหม่ครึ่งปีหลังอาจช่วยกระตุ้น ศก. ปีหน้าขยายตัวได้สูงถึง 4.5%

นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า เอดีบีปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือร้อยละ 2.9 เท่ากับจีดีพีปี 2556 จากเดิมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยมีสมมติฐานว่าต้องมีรัฐบาลใหม่ที่สามารถดำเนินงานได้เต็มรูปแบบภายในครึ่งหลังปี 2557 แต่หากภายในไตรมาส 3 ยังไม่มีรัฐบาล จีดีพีปีนี้อาจจะโตต่ำกว่าร้อยละ 2 ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีทางออกบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ผู้บริโภค และธุรกิจ ส่งผลลบต่อการบริโภค และการลงทุน

โดยการบริโภคภาคเอกชนยังได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวที่ล่าช้า และความไม่แน่นอนของอนาคตโครงการอีกด้วย นอกจากนี้ หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 80.1 ของจีดีพี สิ้นไตรมาส 3/2556 ยังกดดันการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5-2 ซึ่งเอดีบีกำลังจับตามองจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ออกมาไม่ดี แต่ยังหวังว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 จะมีสัญญาณดีขึ้น

ส่วนโครงการลงทุนทั้งรัฐ และเอกชนชะลอต่อเนื่อง คาดขยายตัวร้อยละ 1-1.5 โดยโครงการลงทุนภาครัฐต้องหยุดชะงักลง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาว่าร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำ คาดว่าเบิกจ่ายได้เพียงเล็กน้อย เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์

ขณะที่โครงการลงทุนรัฐวิสาหกิจหลายโครงการอยู่ในภาวะชะงักงัน และคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนยังคงซบเซาต่อไป ผู้ลงทุนระมัดระวังการลงทุน และรอดูแนวนโยบายของรัฐบาลใหม่ก่อน ขณะที่การพิจารณาให้สิทธิประโยชน์การลงทุนภาคเอกชนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ล่าช้าออกไป เนื่องจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ

นอกจากนี้ การพิจารณาอนุมัติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2558 ก็ต้องล่าช้าออกไปเช่นกัน ด้านภาคการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเติบโตร้อยละ 5.5-6 เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐฯ ยุโรป ดีขึ้น แม้เศรษฐกิจจีนจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงก็ตาม และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงจะช่วยภาคการส่งออกด้วย

ส่วนเงินเฟ้อปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 โดยเป็นผลจากเงินบาทอ่อนค่า และราคาก๊าซหุงต้มที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 2 จนถึงสิ้นปีนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นางลัษมณ คาดว่าการบริโภค และการลงทุนจะฟื้นตัวในปี 2558 เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ซึ่งเมื่อมีรัฐบาลใหม่ การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนจะมีส่วนช่วยต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าให้ขยายตัวได้ร้อยละ 4.5 สำหรับจีดีพีของไทยปีนี้ที่คาดว่าเติบโตร้อยละ 2.9 เป็นอัตราเติบโตต่ำสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศฟิลิปปินส์ เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 6.4 อินโดนีเซีย เติบโตร้อยละ 5.7 และมาเลเซีย เติบโตร้อยละ 5.1
กำลังโหลดความคิดเห็น