นางลักษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี กล่าวว่า เอดีบีปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ เหลือร้อยละ 2.9 ต่ำสุดในอาเซียน จากเดิมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยมีสมมติฐานว่า ต้องมีรัฐบาลใหม่ที่สามารถดำเนินงานได้เต็มรูปแบบภายในครึ่งหลังปีนี้ แต่หากภายในไตรมาส 3 ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ จีดีพีปีนี้อาจจะโตต่ำกว่าร้อยละ 2 ซึ่งปัญหาการเมืองบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ผู้บริโภค และธุรกิจ ส่งผลลบต่อการบริโภคและการลงทุน โดยการบริโภคภาคเอกชนยังได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวที่ล่าช้า และความไม่แน่นอนของอนาคตโครงการ
นอกจากนี้ หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 80.1 ของจีดีพี สิ้นไตรมาส 3/2556 ยังกดดันการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5-2 ส่วนโครงการลงทุนทั้งรัฐและเอกชน คาดว่า จะขยายตัวเพียงร้อยละ 1-1.5
ด้านการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น เติบโตร้อยละ 5.5-6 ส่วนเงินเฟ้อคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 2 จนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจไทยในปีหน้าน่าจะกลับมาขยายตัวได้ร้อยละ 4.5
นอกจากนี้ หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 80.1 ของจีดีพี สิ้นไตรมาส 3/2556 ยังกดดันการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5-2 ส่วนโครงการลงทุนทั้งรัฐและเอกชน คาดว่า จะขยายตัวเพียงร้อยละ 1-1.5
ด้านการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น เติบโตร้อยละ 5.5-6 ส่วนเงินเฟ้อคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 2 จนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจไทยในปีหน้าน่าจะกลับมาขยายตัวได้ร้อยละ 4.5