ปัจจัยการเมืองในประเทศกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนเริ่มถือเงินสดรอดูอยู่นอกตลาด ฟากโบรกฯ ส่งสัญญานเตือนลดพอร์ตทันทีที่ดัชนีหลุด 1,340 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 มี.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,355.95 จุด ลดลง 4.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 22,734.43 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง % -0.33 โดยดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,365.82 จุด และต่ำสุดที่ 1,354.69 จุด
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) สรุปภาพรวมดัชนีหุ้นไทยช่วงไทยเช้า แกว่งแคบเพราะได้รับแรงกดดันจากการที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. นัดชุมนุมใหญ่วันเสาร์ที่ 29 มี.ค. นี้ และปลายสัปดาห์หน้าจะมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อีกทั้งในช่วงกลางเดือนหน้า (เม.ย.) ก็จะมีการทยอยประกาศงบการเงินงวดไตรมาส 1/57 คาดว่าจะออกมาไม่ดีกว่าไตรมาส 4/56 ทำให้ตลาดฯ น่าจะไปต่อได้ลำบากด้วย ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ถือเงินสดรอดูความชัดเจนเห็นได้จากวอลุ่มเทรดที่เบาบางมาก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ออกนอกตลาดไปก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนทางการเมืองในช่วงปลายสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า
แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ ดัชนีน่าจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบแคบ บวกหรือลบไม่มาก เนื่องจากนักลงเน้นการลงทุนลักษณะเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก ช่วงสั้นมากขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,345 จุด ส่วนแนวต้าน 1,365-1,375 จุด
สอดคล้องกับ น.ส.ธีระดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดความเคลื่อไหวดัชนีหุ้นไทยพรุ่งนี้ ว่า ดัชนีน่าจะยังคงผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ประกอบกับแรงกดดันด้านการเมืองในประเทศกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทาง สศค. ปรับประมาณการอัตราเติบโตเศรษฐกิจของไทยปีนี้ลงเหลือ 2.6% จากเดิม 4% ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุน จนทำให้ปริมาณการซื้อขายวานนี้ค่อนข้างเบาบาง อย่างไรก็ตาม แนวรับจิตวิทยาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,350 จุด แนวต้าน 1,370 จุด โดยปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การประกาศตัวเลขจีดีพี และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย
พร้อมแนะนักลงทุนควรซื้อขายตามกรอบการลงทุนที่ประเมิน แต่หากดัชนีปรับตัวลดลงจนหลุดแนวรับที่ระดับ 1,340 จุด แนะนำให้ลดสัดส่วนการลงทุนลงทันที
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อ ขายสูงสุด ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,954,956 ล้านบาท ปิดที่ 227.00 บาท ลดลง 1.00 บาท ปลี่ยนแปลง -0.44%
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,648,919 ล้านบาท ปิดที่ 299.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท ปลี่ยนแปลง +1.36%
IVL มูลค่าการซื้อขาย 843,902 ล้านบาท ปิดที่ 22.90 บาท ลดลง 0.40 บาท ปลี่ยนแปลง -1.72%
JAS มูลค่าการซื้อขาย 801,229 ล้านบาท ปิดที่ 7.80 บาท ลดลง 0.10 บาท ปลี่ยนแปลง -1.27%
SCB มูลค่าการซื้อขาย 783,797 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 1.50 บาท ปลี่ยนแปลง -0.97%