บลจ.ชวนลงทุนกองบอนด์สั้น ล็อกผลตอบแทนรับ ดบ.ขาลง

บลจ.กสิกรไทย และ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วงขาลง ชวนนักลงทุนล็อกเงินในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือนถึง 1 ปี รับผลตอบแทนน่าสนใจ เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 25 มีนาคม 2557

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากระดับ 2.25% มาอยู่ที่ 2.00% จากการประชุมของ กนง.ในวันที่ 12 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา จากการประเมินเศรษฐกิจไทยที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านการขยายตัวท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง แม้ระดับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันมีการปรับตัวขึ้นแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ จึงเชื่อว่าการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมของ กนง.นี้จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนเพิ่มเติมได้

โดยในวันที่ 18-25 มีนาคม 2557 บลจ.จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีอี (KFI3MEE) ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.60% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอ (KFF6MBA) ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.90% ต่อปี

นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน ไอ (KEFF3MI) ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.90% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน โอ (KEFF6MO) ประมาณการผลตอบแทนที่ 3.10% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เจ (KEFF1YJ) ประมาณการผลตอบแทนที่ 3.25 % ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

“ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลในประเทศมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยมองว่าการล็อกผลตอบแทนด้วยการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการจะเป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์แก่ผู้ลงทุนในช่วงดอกเบี้ยขาลง โดย บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดระยะเวลาชัดเจนตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไปเพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนเอาไว้ก่อน และเป็นการพักเงินเพื่อรอดูความชัดเจนด้านเศรษฐกิจต่อไป” นายนาวินกล่าว

ทางด้านนายอุดมการ อุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการพัฒนาธุรกิจ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ หลังจากที่ กนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 2.25% เมื่อเร็วๆ นี้ ดังนั้น ทางเลือกการลงทุนที่ใช้ระยะเวลาลงทุนช่วงสั้นแต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่พอจะรับความเสี่ยงได้

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ รีเทิร์น 3M1 อายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทางการเงินภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ ส่วนที่ลงทุนในต่างประเทศจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedged) ซึ่งคาดว่าจะได้ผลตอบแทนที่ 3% ต่อปี โดยเริ่มเปิดซื้อขายแล้วระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2557

นอกจากนี้ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 มนตรี สโตร์เรจ กำหนดจ่ายปันผลครั้งที่ 9 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ในอัตราหน่ายลงทุนละ 0.3500 บาท โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 31 มีนาคม 2557

ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ เมอร์เคียว สมุย กำหนดจ่ายปันผลครั้งที่ 7 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ในอัตราหน่ายลงทุนละ 0.3500 บาท โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 28 มีนาคม 2557 และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย กำหนดจ่ายปันผลครั้งที่ 5 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ในอัตราหน่ายลงทุนละ 0.3279 บาท โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 27 มีนาคม 2557 โดยทั้ง 3 กองทุนกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 20 มีนาคม 2557 นี้