ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 1,352.21 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.57 จุด หรือ +0.04 มูลค่าการซื้อเบาบางเพียง 29,829.83 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,354.08 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,348.22 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบตลอดทั้งวัน
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 390 หลักทรัพย์ ลดลง 296 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 236 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 928.76 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 271.30 ล้านบาท ในขณะที่สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ -928.76 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 318.67 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับหลักทรัพย์ คือ
TRUE ปิดที่ 7.30 บาท ลดลง -0.25 บาท หรือ -3.31% มูลค่าการซื้อขาย 2,285,977 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 193.50 บาท ลดลง -3.00บาท หรือ-1.53% มูลค่าการซื้อขาย 1,160,890 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 296.00 บาท ลดลง -8.00 บาท หรือ -2.63% มูลค่าการซื้อขาย 1,119,651 ล้านบาท
BTS ปิดที่ 8.40 บาท เพิ่มขึ้น +0.15 บาทหรือ +1.82% มูลค่าการซื้อขาย 1,101,060 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 179.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,039,595 ล้านบาท
นายธีรศักดิ์ ธนวรากุล นักวิเคราะห์เทคนิคตราสารทุน และตราสารอนุพันธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีแรงขายทำกำไรออกมาจากนักลงทุนหลายกลุ่ม ซึ่งมาจากแรงกดดันที่มีต่อหุ้นกลุ่ม ปตท. จึงมีแรงเทขายออกมา ทำให้แนวโน้มที่ดัชนี SET INDEX มีโอกาสที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง (Side Way) โดยภาพรวมตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาค
อย่างไรก็ดี แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) คาดว่าดัชนี SET INDEX จะเคลื่อนใหวในกรอบที่จำกัดอยู่ที่แนวต้านประมาณ 1,350 จุด โดยประเด็นที่สำคัญคือ ปัจจัยสนับสนุนที่มาจากเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ ที่ทยอยกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย จากกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองเริ่มผ่อนคลายลง โดยหุ้นที่ยังคงน่าลงทุนจากการปรับตัวขึ้นมาช้า ได้แก่ PTTEP และ BBL