“อนันต์ อัศวโภคิน” เชื่อการเมืองไม่จบ ไม่ว่าจะเลือกตั้ง หรือมีนายกฯ คนกลาง ระบุอสังหาฯ 57 ปี “พักยก” แนะตรวจสอบคุณภาพสินค้า บริการ เวลาก่อสร้าง เสริมความแข็งแกร่ง ด้านผู้ว่าฯ ชลบุรี ชี้เศรษฐกิจโตสวนทางเศรษฐกิจประเทศ พร้อมวอนผู้ประกอบการอสังหาฯ พัฒนาบ้านอย่างมีคุณภาพ “พฤกษา” คาดอสังหาฯ กทม.-ปริมณฑล ติดลบ 10%
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานคณะกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคตะวันออก ปี 2557” จัดโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ว่า ปัญหาการเมืองที่ไร้ความชัดเจน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และกำลังซื้อลดลง ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าหากการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่มองว่าการเมืองไม่ว่าจะออกมาด้วยวิธีไหนก็ไม่น่าจะนิ่ง แม้ว่าจะมีการเลือกตั้ง หรือมีนายกรัฐมนตรีคนกลางก็ตาม
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในต่างประเทศแม้จะไม่ดีมาก แต่ก็คาดว่าจะไม่แย่ไปกว่าปัจจุบัน ส่วนเศรษฐกิจของไทยนั้น แม้ว่าในต่างประเทศจะอยู่ในช่วงปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ในไทยกลับปรับดอกเบี้ยลดลง ซึ่งไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเท่าที่ควรจะเป็น เพราะดอกเบี้ยนั้นควรจะลดตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว การลดดอกเบี้ยในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีจึงส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ คาดว่า ปีนี้ควรเป็นปีแห่งการ“พักยก” แม้ว่าขณะนี้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในเดือน มี.ค.จะเริ่มดีขึ้นบ้าง ต่างจากช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ธ.ค.-ก.พ.) ตลาดแย่มาก และที่ที่มีปัญหาค่อนข้างมาก คือ ตลาดคอนโดมิเนียมล้านกว่าบาท ที่มีการเปิดมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนมากกว่า 50-60% ของตลาดรวมคอนโดฯ โดยมีการเปิดตัวเฉลี่ยปีละ 5 หมื่นยูนิต ขณะที่ความต้องการของตลาดอยู่ที่ 2-3 หมื่นยูนิตเท่านั้น
ทั้งนี้ เช่นเดียวกับตลาดคอนโดฯ ต่างจังหวัด พบว่าในหลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต นครราชสีมา ขอนแก่น เริ่มมีปัญหาเรื่องลูกค้าไม่รับโอน โดยเฉพาะโครงการที่วางเงินดาวน์ต่ำแค่ 5% ซึ่งเคยเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดเงินดาวน์ 10-15% เพื่อให้มีวินัยทางการเงิน เพราะคนซื้อบ้านถ้าดาวน์ไม่ไหว แสดงว่าไม่ยังพร้อมที่จะผ่อน ซึ่งต้องยอมรับปัญหาดังกล่าวยังเป็นเหตุให้สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเริ่มเห็นตัวเลขหนี้เสีย(เอ็นพีแอล) ขึ้น จาก 1% กว่าๆ เป็น 2% เท่ากับขึ้น 40% ซึ่งถือว่าเยอะมาก
“คอนโดฯ ล้านต้นๆ เกิดได้เพราะดอกเบี้ยต่ำลง ทำให้คนเอื้อมถึง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้หอพัก อพาร์ตเมนต์ โดยบ้านเช่าถือเป็นน้ำบ่อใหญ่ แต่ตลาดนี้มีวันหมด จะค่อยๆ ชะลอลง แต่ไม่ได้ตายสนิท แต่ละลดเหลือ 2-3 หมื่นยูนิต ไม่ใช่ 5 หมื่นยูนิตเหมือนในอดีต” นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อให้ปีนี้เป็นปีพักยก ผู้ประกอบการควรหันมาตรวจสอบ (QC) ภายในองค์กรของตนเอง 3 เรื่อง คือ ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ตรวจสอบคุณภาพบริการ ต้องดูแลลูกค้าตั่งแต่วันแรกเข้ามา ที่สำคัญคือ การบริการหลังการขายเพราะจะเป็นการบอกต่อของลูกค้า และตรวจสอบเวลาว่าการก่อสร้างตรงตามเวลา หรือส่งมอบได้เร็วหรือไม่ หากทั้ง 3 ข้อไม่ได้ตามมาตรฐาน ต้องกลับมาดูความผิดพลาดว่าเกิดจากอะไร และต้องแก้ไขอย่างไร
ผู้ว่าฯ ชลบุรี วอนจัดสรรคุมคุณภาพบ้าน
ด้านนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานกล่าวเปิดงานว่า ปัจจุบันชลบุรีมีความแข็งแกร่งมาก เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจประเทศหรือเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ชลบุรีไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีความแข็งแกร่งในหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยว อุตสหากรรม เกษตรกรรม โดยในปี 2556 ส่งรายได้เข้ารัฐมากกว่า 2.3 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 10% ของงบประมาณแผ่นดิน
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในชลบุรี ไม่เพียงแต่เป็นที่สนใจของนักลงทุนท้องถิ่น แต่นักลงทุนต่างถิ่น โดยเฉพาะจากส่วนกลาง สนใจเข้ามาลงทุนในชลบุรีจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ โดยสิ่งที่ชลบุรีต้องลงทุนเพิ่มเติมเวลานี้ คือ เรื่องระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำ ประปาต้องวางแผนล่วงหน้า 50 ปี เพราะเป็นเมืองที่มีการขยายการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากความต้องการท้องถิ่น และความต้องการจากคนต่างถิ่น จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนสาธารณูปโภค รวมถึงระบบขนส่ง การเดินทาง เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว
"ถ้ารัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใด หากไม่หันมาใส่ใจเรื่องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ชลบุรี ก็จะเป็นปัญหาในอนาคต โดยแม้ว่าโครงการ 2 ล้านล้านบาทมีแววจะสะดุด ก็ต้องมีโครงการขนส่งด้วยระบบอื่นเข้ามาเสริม ซึ่งชลบุรีไม่ใช่มีเพียงภาคเศรษฐกิจท้องถิ่น อุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตด้วย โดยหากดูจากตัวเลขผู้โดยสารต่างชาติที่ลงสนามบินสุวรรณภูมิ สัดส่วนมากถึง 60% เดินทางมาพัทยา ชลบุรีต่อ ส่วนอีก 40% เดินทางไปส่วนอื่น”
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เข้ามาลงทุนในชลบุรี ควรแข่งขันกันสร้างบ้าน และคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพ มากกว่าแข่งกันขึ้นโครงการใหม่ๆ แต่ไม่มีคุณภาพ เพื่อให้ต่างชาติ คนต่างถิ่น หรือคนชลบุรี ที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ มั่นใจว่าเป็นโครงการที่มีคุณภาพ โดยที่ผ่านมายังเห็นหลายโครงการบ้านจัดสรร เน้นกำไรมากเกินไป ส่งผลเสียแก่ผู้ซื้อบ้าน จึงอยากให้ปรับวิธีคิดใหม่
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปีนี้จะติดลบ 10% จากปีที่แล้วมีมูลค่าตลาดอสังหาฯ อยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท โดยเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง และผู้ประกอบการหลายรายชะลอเปิดโครงการออกไป
“มูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ 340,000 ล้านบาท เนื่องจากบ้านเราต้องอยู่ในสภาวะที่ยังไม่มีรัฐบาล แต่ขออย่าให้เหตุการณ์รุนแรง และบานปลาย หรือมีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนโปรเจกต์ต่างๆ เราอาจจะมีการปรับลดลงบ้าง และเราต้องใช้เม็ดเงินให้ระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ซึ่งมองภาพรวมปีนี้อาจจะไม่โต แต่ก็ถือว่าไม่ได้ขาดทุน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจหลากหลาย ทั้งคอนโดฯ และทาวน์เฮาส์ ทำให้ปีนี้ต้องถือว่าปีนี้ต้องเปลี่ยนเป็นปีที่ต้องพักฟื้น และระมัดระวังในการขยายธุรกิจ”
