สศค.เผยผลการดำเนินงานแบงก์รัฐ 8 แห่ง เดือน ม.ค.57 มีเอ็นพีแอล 202,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.56 ที่ผ่านมา 2,000 ล้านบาท ระบุมีสินเชื่อที่แก้ไขแล้วของ ธพว. และ ธอท. เด้งกลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง ยันมีสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับสินเชื่อโดยรวมทั้งหมด ลั่นไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในการปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง ล่าสุด เดือน ม.ค.57 พบว่า มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 202,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.34% ของสินเชื่อทั้งระบบ ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.56 ที่ผ่านมา ประมาณ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากมีสินเชื่อที่แก้ไขแล้วของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) กลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง
ทั้งนี้ เอ็นพีแอลของระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเคยสูงที่สุด ในเดือน ก.ค.56 อยู่ที่ 219,000 ล้านบาท หรือ 6.0% ของสินเชื่อทั้งระบบ เนื่องจากเอ็นพีแอลของ ธพว. และ ธอท. เพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่เอ็นพีแอลของระบบได้ลดลงต่ำสุดในเดือน พ.ย.56 อยู่ที่ 200,000 ล้านบาท หรือ 5.3% ของสินเชื่อทั้งหมด และได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เดือน ธ.ค.56 และเดือน ม.ค.57 ถึง 2 เดือนติด เนื่องจากมีสินเชื่อที่แก้ไขแล้วของ ธพว.และ ธอท.กลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง ขณะที่การตั้งสำรองเอ็นพีแอลมีการตั้งสำรองถึง 149.5% ของเอ็นพีแอลทั้งหมด
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. ยืนยันว่า เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินเฉพาะกิจยังมีสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับสินเชื่อโดยรวมทั้งหมด นอกจากนี้ สินเชื่อจำนวนมากเป็นของ ธพว. และ ธอท. ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลัง ได้เร่งให้ทั้ง 2 แห่ง แก้ไขตามแผนฟื้นฟู ซึ่งจะทำให้สินเชื่อทั้ง 2 แห่งลดลง ส่งผลทำให้สินเชื่อโดยรวมของระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจลดลงด้วย ซึ่งเอ็นพีแอลดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของแบงก์รัฐในการปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ สศค.ยังรายงานสินเชื่อคงข้างของระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจในเดือน ม.ค.57 ยกเว้น บสย. อยู่ที่ 3.73 ล้านล้านบาท ขยายตัวในอัตราที่ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับ ม.ค. 2556 ที่สินเชื่อขยายตัว 12.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.4% เทียบกับเดือนก่อนหน้า
ด้านเงินฝาก ยกเว้น บสย. และ บตท. อยู่ที่ 3.76 ล้านล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 10.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และปรับลดลง 1.6% จากเดือนก่อนหน้า สำหรับเงินทุนที่สถาบันการเงินสามารถใช้รองรับความเสียหายที่ (บีไอเอส เรโช) ในเดือน ม.ค.57 ของระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจอยู่ที่ 10.3% ซึ่งอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินงานในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม เอ็นพีแอลของระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) ธพว. และ ธอท.
