xs
xsm
sm
md
lg

ผุดข้าวแกง15บาท คลังจัดให้"ปูเน่า"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตีปี๊ปประชานิยมรับเลือกตั้ง คลังผุดโครงการข้าวแกง 15 บาท ให้ ธ.ก.ส.-เอสเอ็มอีแบงก์-บสย.ร่วมจัดหวังลดภาระค่าครองชีพประชาชน โวร้านค้าแห่สมัครเข้าร่วมแล้ว 300 แห่ง ด้านบิ๊ก ธ.ก.ส.เด้งรับแจงฐานะมั่นคง สภาพคล่องไม่มีปัญหาเหตุสำรองไว้สูงกว่าเกณฑ์ 3 เท่า เผยเหลือเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท พร้อมจ่ายให้เกษตรจำนำข้าวถึงสิ้นปี

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเปิดตัวโครงการ 15 บาทก็ทานได้ ว่า ถือเป็นความร่วมมือของกระทรวงการคลัง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้าจำหน่ายข้าวราดแกงและอาหารจานเดียวราคาเริ่มต้น 15 บาท เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนผู้บริโภคได้เข้าถึงอาหารราคาถูก และมีคุณภาพอีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนผู้มีอาชีพค้าขายให้สามารถกู้เงินทุนหมุนเวียนได้ตามระบบธนาคาร

ทั้งนี้ ได้เปิดรับสมัครร้านค้าข้าวแกงก๋วยเตี๋ยว และร้านอาหารจานเดียวทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลให้เข้าร่วมโครงการแล้วในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้สนใจแล้วจำนวน 300 ร้านค้า โดยจะเปิดให้สมัครเข้าโครงการได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม นี้ โดยร้านค้าที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับบัตรประจำตัวและป้ายสัญลักษณ์ของโครงการและป้ายแสดงราคาอาหาร

"กระทรวงการคลัง ได้ประสานหน่วยงานในสังกัดเพื่อสนับสนุนให้ร้านค้ามีต้นทุนลดลงและสามารถจำหน่ายข้าวแกงได้ในราคา 15 บาท เช่น ทางธ.ก.ส.ที่จะจัดหาข้าวสารขาว 5% บรรจุ 5 กิโลกรัม มาจำหน่ายให้ราคาถึงละ 70 บาทเท่ากับต้นทุน อีกทั้งยังได้รับการอุดหนุนราคาแก๊สหุงต้มจากกระทรวงพลังงานที่มอบบัตรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อซื้อในราคา 289 บาทต่อถังและยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนโดยบริษัทมรกต อินดัสตรี้ส์ จำกัด(มหาชน) สนับสนุนน้ำมันพืชราคาขวดละ 33 บาทต่ำกว่าตลาดที่ขาย 42 บาท พร้อมบริหารจัดส่งไปยังร้านค้าโดยตรง"นายรังสรรค์ กล่าว

นายฐานิศร์ สุทธสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการธ.ก.ส.กล่าวว่าส่วนของ ธ.ก.ส.ได้ขอความร่วมมือจากโรงสีใน จ.อยุธยาเพื่อจัดหาข้าวสารในราคาต้นทุนกิโลกรัมละ 14 บาทมาจำหน่ายให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยเบื้องต้นเตรียมไว้ 100 ตัน โดยระยะ 3 เดือนแรกจะจัดส่งให้กับร้านค้าโดยตรงจากนั้นจะมีการจัดการระบบขนส่งให้มีมาตรฐานมากขึ้นเพื่อให้เป็นโครงการที่ยั่งยืนต่อไป โดยคาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการประมาร 500 ร้านค้าหรือ อาจจะถึง 1,000 ร้านค้าเพราะถือเป็นโครงการที่ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การดำเนินงานในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีความเจริญเติบโตและมั่นคงทางการเงิน ทั้งคุณภาพสินเชื่อและสภาพคล่องทางการเงินและความสามารถในการทำกำไร พร้อมกับถือโอกาสชี้แจงการบริหารจัดการโครงการภาครัฐรวมถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า มีการแยกบัญชีอย่างไร กรอบการบริหารงาน เพื่อให้วงเงินอยู่ใน 5 แสนล้านบาทตามกรอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งเงินที่จะได้รับชำระคืนและวงเงินที่จะใช้ในฤดูกาลผลิตปี 2556/57 ด้วย

ผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนพบว่า สินทรัพย์ขยายตัว 4-5% ยอดเงินฝากเติบโตจากต้นปี 3% หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท ขณะที่สินเชื่อขยายตัว 8% คิดเป็นยอดคงค้างทั้งสิ้น 9 หมื่นล้านบาท แต่หากรวมสินเชื่อในโครงการรับจำนำข้าวจะประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท ขณะที่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ประมาณ 4-5% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ภายในสิ้นปีจะบริหารไม่ให้เกิด 4% เท่ากับปีก่อน และความสามารถในการทำกำไรประมาณ 6 พันล้านบาท และภายในสิ้นปีคาดว่ากำไรจะไม่เกิน 8 พันล้านบาท และธนาคารยังมีบัญชีที่ดำเนินการตามโครงการรัฐบาลและรอการชำระคืนอีกประมาณ 7.6 แสนล้านบาท

"สำรองสภาพคล่องส่วนเกินสูงกว่าเกินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดถึง 3 เท่า ซึ่งหากพิจารณาจากยอดเงินที่มีประมาณ 1 ล้านล้านบาท ตามเกณฑ์สำรองของธปท.กำหนดไว้ 6% หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาทเท่านั้น แต่ธนาคารสำรองไว้ถึง 1.8 แสนล้านบาท แต่ที่ไม่ได้นำมาใช้สำรองจ่ายในโครงการรับจำนำข้าวเพิ่มเติมจาก 9 หมื่นล้านบาทที่ใช้ไปแล้ว เพราะไม่มีมติ ครม.รองรับ" นายลักษณ์กล่าว

***ยันพร้อมจ่ายเงินจำนำข้าวถึงสิ้นปี

สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในฤดูกาลผลิต ปี 2556/57 ขณะนี้มีข้าวเข้าโครงการและออกในประทวนแล้วทั้งสิ้น 5.5 ล้านตัน เป็นเงินประมาณ 9 หมื่นล้านบาท โดยธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินให้กับเกษตรกรไปแล้วจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม ทั้งสิ้น 1.7 หมื่นล้านบาท และยังเหลือเงินประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยจ่ายให้กับเกษตรกรที่มีใบประทวนแล้วถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 เพื่อไม่ให้กรอบวงเงินของโครงการเกิน 5 แสนล้านบาทตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556

โดยการจ่ายเงินของธ.ก.ส.เป็นการนำเงินที่ได้จากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ที่นำส่งแล้วทั้งสิ้น 1.62 แสนล้านบาท และเงินที่เบิกจ่ายจากงบประมาณจากโครงการเก่าๆ อีก 5.2 หมื่นล้านบาท รวมเงินที่ได้รับชำระประมาณ 2 แสนล้านบาท ทำให้สามารถนำมาลดวงเงินที่ใช้ไปในโครงการรับจำนำข้าวช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาที่ใช้ทั้งสิ้น 6.8 แสนล้านบาทให้ต่ำกว่ากรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาทลงได้ และมีวงเงินเหลือประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาทมาจ่ายให้กับเกษตรกรได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น