บสส. ยันไม่แข่งแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจลูกค้า แม้ตลาดชะลอ ระบุเน้นการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจน พร้อมส่งทีมขายบี้ลูกค้าถี่ขึ้น ลุยจัดกิจกรรมตลาด นำทรัพย์ออกประมูล มั่นใจยอดขาย 5,000 ล้านบาทตามเป้า แม้ตลาดปีนี้ยากสำหรับผู้ขายอสังหาฯ เล็งซื้อทรัพย์ NPA-NPL เข้าพอร์ตเพิ่มทั้งปี 3,500 ล้านบาท แจงงานประมูลครั้งแรกกวาดรายได้ 400 ล้านบาท ต่ำเป้าเล็กน้อย
นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า หลังจากที่รับโอนสินทรัพย์รอการขาย NPA จากบรรษัท บริหารสินทรัพย์ไทย จำกัด ( บสท.) เข้ามา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รอการขายในพอร์ตรวม 20,000 ล้านบาทเศษ โดยแบ่งเป็นสินทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า 45% และอีก 55% เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยทรัพย์ดังกล่าวกระจายอยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 40% และอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด 60%
โดยในปีนี้ บสส.ตั้งเป้าว่าจะซื้อทรัพย์เข้ามาเสริมพอร์ต ทั้งทรัพย์รอการขาย (NPA) และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท หรือจะมีทรัพย์เข้ามาเสริมในพอร์ตประมาณ 1,000 รายการ โดยจะเป็นทรัพย์ NPA ประมาณ 2,000 ล้านบาท และ NPL ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเมื่อนับรวมกับพอร์ตสินทรัพย์เดิมที่มีอยู่ในมือ จะทำให้ บสส.มีพอร์ตให้บริหารในปีนี้กว่า 23,500 ล้าน ทั้งนี้ ทรัพย์ที่เป็น NPL นั้น บสส.จะเข้าซื้อล็อตใหญ่จากสถาบันการเงิน ส่วนทรัพย์ NPA นั้นจะเข้าซื้อทรัพย์ที่มีการปรับโครงสร้างแล้ว หรือทรัพย์ที่เป็น NPA จากกรมบังคับคดี
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2557 นี้ บสส. ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายทรัพย์ 5,000 ล้านบาท เท่ากับยอดขายของปีก่อนหน้านี้ โดยยอดขายดังกล่าวจะมาจากการขายทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า 20-30% และทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัย และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 60-70% โดยในปี 2556 ที่ผ่านมา บสส.มียอดขายสามารถสร้างยอดขายทรัพย์ได้สูงถึง 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2555 และปีก่อนหน้าซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 3,000-3,500 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น
“สาเหตุที่ บสส. ตั้งเป้ายอดขายในปี 57 ไว้ 5,000 ล้านบาทเท่ากับปีก่อนหน้า เนื่องจากบอร์ด บสส.เห็นว่าเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้ แต่ในช่วงที่มีการประมาณการเป้ายอดขายปีนี้ บสส.ไม่ได้ประมาณการณ์ยอดขายในภาวะที่เกิดปัจจัยทางการเมือง และเศรษฐกิจรวมเข้าไปด้วยทำให้เป้าหมายในปีนี้ค่อนข้างลำบาก”
นายนิยต กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์หลักในการผลักดันยอดขายทรัพย์ให้ได้ตามเป้าในปีนี้ บสส.จะไม่เน้นในเรื่องการจัดแคมเปญการตลาด แต่จะเน้นในเรื่องการเข้าหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และการทำงานของทีมขายเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาทรัพย์ที่เสนอขายสะท้อนราคาจริงในตลาดอยู่แล้ว นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มงบในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในกลุ่มลูกค้าหลัก การจัดกิจกรรมการตลาด เช่น การออกบูท และการเปิดประมูลทรัพย์ โดยในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมออกบูทรวม 6 ครั้ง และมีการเปิดประมูล 9 โครงการ โดย บสส.จะนำทรัพย์ทุกชิ้นที่ได้มาเปิดให้ลูกค้าประมูลในงานก่อน และหากยังไม่สามารถขายได้ก็จะนำไปออกบูทขายในราคาขั้นต่ำที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดประมูลทรัพย์นั้น ในช่วงต้นปี บสส.ได้มีการจัดประมูลทรัพย์ครั้งแรกไปแล้ว โดยสามารถสร้างยอดขายได้ 400 ล้านบาท จากการขายทรัพย์รวม 15 รายการ ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 450 ล้านบาทเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาลง จึงเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อยอดขายของ บสส.ในปีนี้ช่วยให้มียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายได้ โดยคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้สามารถทำยอดขายได้ที่ 40% ของเป้าที่วางไว้ และอีก 60% จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนปัญหาการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่เกิดขึ้นขณะนี้ ในส่วนของ บสส.เองยังไม่เห็นชัด และยังไม่สร้างผลกระทบต่อการขอสินเชื่อขอลูกค้า เนื่องจาก บสส.มีการเจรจา และตกลงกับพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงิน คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารยูโอบี เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อทรัพย์ระดับราคา 3-5 แสนบาทไว้แล้ว