ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,377.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,038.60 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง +0.36% โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,531.29 ลบ.
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,377.29 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,366.75 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 384 หลักทรัพย์ ลดลง 319 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 210 หลักทรัพย์
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งในแดนบวก-ลบ คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ภายหลังจากที่ผลการทำประชามติปรากฏว่า ไครเมียต้องการแยกไปอยู่กับรัสเซีย จากนี้ต้องรอดูท่าทีของสหรัฐอเมริกาว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ด้วยลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ว่าจะมีทิศทางอย่างไรเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ (QE)
ส่วนสถานการทางการเมืองในประเทศก็ยังต้องมีการติดตาม แต่อย่างไรก็ตาม หากยังไม่เกิดสถานการที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น หลังจากตลาดฯ ตอบรับเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปบางส่วนแล้ว ขณะที่สัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงทำ Window Dressing อีกทั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้หันมาขายสุทธิ ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ และต้องการรอดูว่าต่างชาติซื้อหรือขายในวันนี้ ซึ่งถ้าทิศทาง Flow ยังไหลเข้ามามาก ตลาดฯ ก็พร้อมที่จะขึ้นได้ทันที
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,532.76 ล้านบาท ปิดที่ 179.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,351.14 ล้านบาท ปิดที่ 294.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,288.81 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,239.40 ล้านบาท ปิดที่ 7.35 บาท ลดลง 0.05 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 992.29 ล้านบาท ปิดที่ 424.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
