xs
xsm
sm
md
lg

“กรีนแลม” ฟุ้งอานิสงส์โครงการทยอยสร้างเสร็จ ยอดขายลามิเนต 2 เดือนโต 40%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดิษฐกาน ทิพวัลย์
“กรีนแลม” ผู้นำเข้า และจำหน่ายพื้นลามิเนต ฟุ้งโตสวนกระแสยอดขาย 2 เดือนพุ่ง 40% แม้การเมืองยังไม่จบ เหตุโครงการที่เปิดขายเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา เริ่มสร้างเสร็จทยอยตกแต่ง หนุนความต้องการใช้พุ่ง ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 650 ล้านบาท โต 25-30% เผยเตรียมนำเข้าแผ่นอะคริลิก “ZENOLITE” เจาะตลาดหรูในไทย

นายดิษฐกาน ทิพวัลย์ ประธาน บริษัท กรีนแลม เอเชีย แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายแผ่นพื้นลามิเนต จากประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า จากปัญหาการเมืองตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลประทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ลูกค้าโครงการประมาณ 70-80% ชะลอการตกแต่ง หรือส่งมอบสินค้า แม้ว่าบางรายจะวางเงินมัดจำไปแล้วบางส่วนก็ตาม ส่งผลให้สต๊อกสินค้าของบริษัทฯ ที่สั่งเข้ามามีสะสมอยู่ประมาณ 5.2 แสนแผ่น ถือว่ามากที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ โดยคาดว่าจะสามารถระบายออกได้ทั้งหมดภายในระยะเวลา 4 เดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ในด้านยอดขายของแผ่นพื้นลามิเนตกลับไม่ลดลง โดยในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2557 กลับมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 40% หรือยอดขายประมาณ 105 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเชื่อว่ามาจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อสังหาฯ เติบโต มีโครงการเปิดขายจำนวนมาก ซึ่งโครงการเหล่านั้นเริ่มทยอยสร้างเสร็จในปีนี้ และอยู่ระหว่างตกแต่งภายใน จึงมีความต้องการใช้วัสดุตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ส่วนทางกับทิศทางของตลาด นอกจากนี้ ยังมีกำลังซื้อจากหน่วยงานขององค์กรต่างๆ เช่น สาขาของธนาคาร โรงพยาบาลเอกชน ที่ต้องการตกแต่งสาขาของตนเองให้ดูทันสมัย

“แม้ว่าในช่วงการเมืองร้อนแรง จะมีโครงการใหม่พัฒนาน้อย แต่ก็จะมีโครงการที่ต้องการรีโนเวตอีกมาก ซึ่งล้วนต้องใช้แผ่นลามิเนตในการปิดผิววัสดุ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะมีทั้งธนาคารทุกสาขา และโรงพยาบาลต่างๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 บาท/ตารางเมตร หากรวมค่าติดตั้งจะตกที่ประมาณ 1,500 บาท/ตร.ม.” นายดิษฐกานกล่าว

นายดิษฐกาน กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดแผ่นลามิเนต ล่าสุด ได้ก่อตั้งบริษัทลูกขึ้นมาภายใต้ชื่อ บริษัท นิวไมก้า (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ในการทำตลาดดังกล่าวเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ โดยจำหน่ายสินค้ากลุ่มเดียวกับกรีนแลม ซึ่งถือเป็นการขยายการทำตลาดเพื่อต้องการชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนที่ 25% และปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากมูลค่าตลาดรวม 2,400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีๆ ละประมาณ 10% ทั้งนี้ จะทำการเปิดตัวบริษัท นิวไมก้าฯ ในงานสถาปนิก’57 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน-4 พฤษภาคม 2557 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเข้าสินค้าอีก 2 ประเภท ได้แก่ 1.แผ่นอะคริลิก ภายใต้แบรนด์ “ZENOLITE”จากประเทศสเปน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านสินค้าประเภทดังกล่าว โดยการนำเข้าครั้งนี้ไม่ต้องเสียภาษี และเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ โดยเป็นการจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ 70% และขายตรงผ่านลูกค้า 30% ซึ่งการขายตรงผ่านลูกค้าจะเน้นใน 2 กลุ่มคือ กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ สัดส่วน 20-30% และผู้ประกอบการโครงการอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น พัทยา ภูเก็ต ในสัดส่วนประมาณ 70-80% ซึ่งจะนำเข้ามาจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ ในราคาประมาณ 3,000 บาท/ตารางเมตร

2.สเปรย์เคลือบเงาอเนกประสงค์ ภายใต้แบรนด์ “VUPLEX” จากประเทศออสเตรเลีย อีกด้วย โดยมีคุณสมบัติเคลือบผิวเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุให้แข็งแรง ทนทานมากขึ้น จำหน่ายในราคาประมาณ 400-500 บาท/กระป๋อง คาดว่าจะเริ่มนำมาจำหน่ายได้ในเดือนเมษายน 2557 นี้

สำหรับการรุกตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 นั้น บริษัทฯ ได้เข้าไปขยายตลาดแผ่นพื้นลามิเนต และประตูสำเร็จรูป ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาแล้ว ด้วยการเริ่มส่งออกสินค้า และศึกษาการขนส่งในแต่ละประเทศ เช่น มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, พม่า, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ในรูปแบบของการเข้าไปตั้งสำนักงานสาขา และตั้งตัวแทนจำหน่ายแต่ละประเทศเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในต่างประเทศ โดยเฉพาะพม่า ที่หลังจากเปิดประเทศได้มีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าไปตั้งสาขาทั้งในเมืองย่างกุ้ง และเมืองเนปิดอ โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะสั่งสินค้าด้วยเงินสดทั้งสิ้น

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมประมาณ 500 ล้านบาท และในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 650 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 25-30% โดยเป็นรายได้จากต่างประเทศประมาณ 8% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5%
กำลังโหลดความคิดเห็น