xs
xsm
sm
md
lg

“เอวอน” ปรับแผนฝ่าเศรษฐกิจแย่ หั่นราคา 30% - ลุยทุกช่องทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศุภราภรณ์ เอสซี เปา
“เอวอน” เหนื่อย เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อหด ปรับแผนตลอด อัดฉีดทั้งสินค้า งบตลาด กระตุ้นทั้งผู้บริโภคและนักขายเต็มที่ ลดราคาสินค้า 30% ล่อกำลังซื้อ เตรียมเผยกลุ่มเอวอนไลฟ์บุกตลาดสุขภาพไตรมาสสาม พร้อมลุยทุกช่องทาง

นางศุภราภรณ์ เอสซี เปา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เริ่มอัดฉีดงบการตลาดมากขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดีกำลังซื้อลดลง จีดีพีก็ตกลง ทำให้ต้องจัดรายการส่งเสริมการขายมากขึ้น ออกสินค้าใหม่มากขึ้น อัดฉีดนักธุรกิจเอวอนกับผู้บริโภคมากขึ้น ใช้กลยุทธ์การตลาดมากขึ้น ซึ่งปีที่แล้ว 2556 แม้ว่าจะทำงานหนักขึ้น แต่ก็ยังเติบโตเท่ากับปีก่อนหน้าคือปี 2555 ประมาณ 8-9% เท่านั้น โดยสังเกตุจากอัตราการซื้อต่อบิลตอนนี้อยู่ที่ 2,150 บาท ลดจากเดิมที่มีการซื้อมากถึง 2,500 บาทต่อบิล

ปีนี้บริษัทฯจึงต้องทำการตลาดหนักขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย ออกสินค้ามากขึ้นเฉลี่ย 3 ตัวต่อรอบ( รอบละ 4 เดือน) รวมทั้งจะต้องทำการปรับแผนการดำเนินงานตลอดทุกสัปดาห์ และต้องใกล้ชิดกับสถานการณ์ทางการเมืองกับภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อให้ทันกับความเป็นจริงซึ่งแค่เดือนมกราคมปีนี้เทียบปีที่แล้วก็ทรงตัวทั้งที่ทำตลาดมากขึ้น

ส่วนตลาดรวมขายตรงปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-7% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “เอวอนบิวตี้ ออนทัวร์ 2014 สวย รวย ฟิน อินซัมเมอร์” ใช้งบ 5 ล้านบาท จัดนาน 1 เดือนเริ่มวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยนอกจากมีกิจกรรมต่างๆแล้ว ยังนำเอาสินค้ากลุ่มบิวตี้มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าปรกติถึง 30% เพื่อกระตุ้นการซื้อด้วย ถือว่าลดมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งในภาวะเช่นนี้สินค้าราคาต่ำจะขายได้ง่ายกว่า โดยสินค้าที่ราคาต่ำกว่า 300 บาท ทำรายได้ให้กับเอวอนสัดส่วน 60-65%

นอกจากนั้นจะใช้กลยุทธ์มัลติเพิลแอพโพรช(Multiple Approaches) คือการขยายช่องทางตลาดใหม่พิ่มขึ้นเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ทั้งกลุ่มใหม่ที่อายุ 20-25 ปีและกลุ่มเก่า ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เช่นไดเรคเซลส์ โฮมชอปปิ้ง เคเบิลทีวี เป็นต้น จากเดิมเน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย

อีกทั้งช่วงไตรมาสที่สามจะเปิดตัวกลุ่มเอวอนไลฟ์ ซึ่งในไทยเตรียมการมา 2 ปีแล้ว ขณะที่ต่างประเทศดำเนินการมาแล้วประสบความสำเร็จดีแช่น มาเลเซีย ไต้หวัน ฟิลิผินส์ เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่จะทำตลาดจะเป็นกลุ่มที่นอกเหนือจากความงามและแฟชั่นที่ทำอยู่แล้ว เช่น กลุ่มอาหารเสริม กลุ่มสุขภาพ เป็นต้น โดยสินค้าที่จะนำเข้ามาทำตลาดก่อนคือ อาหารเสริม มีราคาหลากหลาย แต่ที่นำเข้ามาราคา 1,000 – 1,500 บาท คาดว่าภายใน 3 – 5 ปี สินค้ากลุ่มอาหารเสริมจะมีสัดส่วนรายได้ 10-15% แต่อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มหลักของเอวอนยังคงเป็นกลุ่มบิวตี้และแฟชั่น

“ตลาดขายตรงมีสินค้า 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มบิวตี้กับอาหารเสริมรวมกันมากกว่า 75% ของตลาดรวม และเติบโตดีไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งบิวตี้เราเก็แข็งแกร่งแล้ว จึงขยายมายังกลุ่มใหม่ที่เป็นอาหารเสริมและสุขภาพมากขึ้น โดยคาดหวังว่าภายใน 3-5 ปีจะมีสัดส่วนรายได้จากอาหารเสริม 10% ส่วนไตรมาสที่สามก็จะทำการรีลอนช์สินค้ากลุ่มบำรุงผิวลดริ้วรอยใหม่อีก” นางศุภราภรณ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น