“โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์” ฟุ้งฟันกำไร Q1 กว่า 249 ล้านบาท เตรียมอัดงบหลังขาย PO กว่า 4,173 ล้านบาท เสริมทัพเรือเทกองมือสองประเภท supra max อีก 3 ลำ ตั้งเป้าให้ถึง 30 ลำภายในปีนี้ ส่วน PMTA หลังยื่นไฟลิ่งแล้ว คาดรอการเมืองนิ่งเข้าเทรดกลางปี
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 4,173 ล้านบาทบริษัทฯ โดยเตรียมที่จะลงนามสัญญาซื้อเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมือสองประเภท supra max เพิ่มอีก 3 ลำ ราคาเฉลี่ยต่อลำที่ 23-24 ล้านเหรียญ โดยเรือทั้ง 3 ลำดังกล่าว มีขนาดการบรรทุกเฉลี่ยอยู่ที่ 50,402 เดทเวทตัน และขีดความสามารถในการบรรทุกรวมทั้งกองเรือเพิ่มสูงกว่า 1.1 ล้านเดทเวทตัน ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ซื้อเรือมือสองเสริมกองเรือตามแผนการขยายกองเรือของบริษัทฯ รวมทั้งสิ้น 5 ลำ โดยปัจจุบันที่บริษัทมีกองเรืออยู่แล้ว 20 ลำ และเรือเช่าชาเตอร์อินอีกจำนวน 20 ลำ โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มกองเรือเพิ่มขึ้นให้ได้ 25-30 ลำภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้บริษัทฯ มีกำไรในการดำเนินธุรกิจชิปปิ้งของบริษัท TTA จำนวน 120 ล้านบาท ของ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำนวน 280 ล้านบาท บริษัทผลิตปุ๋ย บาคองโก้ ในประเทศเวียดนาม จำนวน 80 ล้านบาท ในขณะที่บริษัท UMS กลับประสบปัญหาขาดทุนกว่า 30 ล้านบาท เนื่องจากถ่านหินมีราคาที่ลดลง เพราะกลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่หันไปนิยมใช้เชลล์แก๊สเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับพื้นที่คัดแยกที่อยู่ในเขตพื้นที่สวนส้ม ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้คนส่งทางเรือ แต่ทั้งนี้ บริษัทเตรียมที่จะคัดแยกนำถ่านหินด้อยคุณภาพกว่า 4-5 แสนตันออกจำหน่าย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บริษัท คาดว่าจะทำให้บริษัทพลิกกลับมามีกำไรได้ในปีนี้
“บริษัทตั้งเป้าพลิกธุรกิจถ่านหิน UMS ให้มีกำไรภายในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในการเข้ามาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หรือเปลี่ยนธุรกิจใหม่ของโรงงานถ่านหิน 1 โรง จากทั้งหมด 2 โรงของบริษัทฯ เนื่องจากกำลังการผลิตรวมของทั้ง 2 โรง อยู่ที่เพียง 40-50% เท่านั้น ประกอบกับราคาถ่านหินมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนเกือบถึงจุดต่ำสุดเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ มองว่าจะใช้กำลังการผลิตจากโรงงานถ่านหินเพียง 1 โรง”
อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าของการนำ บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA เข้าตลาดหุ้นว่า ภายหลังจากได้ยื่นไฟลิ่ง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วนั้น ขณะนี้รอ ก.ล.ต.อนุมัติ ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ก่อนจะนำ PMTA เข้าซื้อขายใน SET ได้ ดังนั้น จึงน่าจะเป็นครึ่งหลังของปีนี้ โดยผู้ถือหุ้นของ TTA จะได้สิทธิในการจองซื้อหุ้น IPO ด้วย และหลังจากขายหุ้น IPO แล้วจะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ TTA เหลือ 65% จากเดิมที่ถือ 100% ใน PMTA อนึ่ง PMTA ประกอบธุรกิจ โดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนส่ง กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนของบริษัทเพื่อการขยายอาคารเพื่อธุรกิจเช่าพื้นที่โรงงานเพื่อเก็บสินค้า และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และแผนการลงทุนในอนาคต