หุ้นปิดครึ่งวันเช้าบวก 10 จุด ดัชนีจ่อขึ้นทดสอบระดับ 1,360 เก็งกำไรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และผลประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ เผยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน สนามบิน ธนาคาร และอสังหาฯ เริ่มคึกคัก คาดบ่ายยังไปต่อได้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 มี.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,359.28 จุด เพิ่มขึ้น 10.23 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.76% มูลค่าการซื้อขาย 13,458.30 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีเตรียมปรับขึ้นทดสอบที่ระดับ 1,360 จุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับได้กว่า 10 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีการเก็งกำไรผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ส่งผลให้บรรยากาศในการซื้อขายกลับมาคึกคัก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังมีข่าวสถาบันจัดอันดับเครดิต ฟิทช์ เรทติ้ง คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ -A ในระดับที่มีเสถียรภาพ สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ยอมรับว่า ประเด็นเก็งกำไรในวันนี้อยู่ที่การประชุม ครม. ต่อการพิจารณา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะหมดอายุลงในสัปดาห์หน้า ล่าสุด รัฐบาลรักษาการมีแนวความคิดที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ดังกล่าว แต่จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แทน หากเป็นไปตามคาดกลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรม สายการบิน สนามบิน จะขยับขึ้นเด่น
ส่วนการประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ยังขาดความชัดเจนว่าจะลด หรือคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่คลายตัว อาจทำให้การลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้ไม่มากนัก
ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย จากความคาดหวังในเรื่องการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนกำหนด และยังมีแรงเก็งกำไรจากการประชุม กนง.พรุ่งนี้ ซึ่งตลาดเก็งว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง ทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาหุ้นในกลุ่ม Domestic plays
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญก็จะมีคำวินิจฉัย พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต้องติดตามดูว่าผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากไม่ผิดก็จะเป็น Sentiment ที่ดีต่อภาคการลงทุน และการท่องเที่ยว แต่ถ้าผิดรัฐธรรมนูญก็อาจจะกระทบต่อความไม่แน่นอนด้านการลงทุน อย่างไรก็ดี สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่รัฐบาลด้วย
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งในกรอบ โดยให้แนวรับ 1,345 จุด แนวต้าน 1,360 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 814.48 ล้านบาท ปิดที่ 8.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 673.19 ล้านบาท ปิดที่ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 584.89 ล้านบาท ปิดที่ 298.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 584.04 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 572.59 ล้านบาท ปิดที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท