“เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งฯ” เดินหน้ากระจายความเสี่ยง ขยายตลาดสู่หัวเมืองเศรษฐกิจ ประกาศเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 3 โปรเจกต์ มูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท นำร่องคอนโดฯ เมืองเชียงใหม่ มั่นใจศักยภาพ กำลังซื้อ ทำเล เปิดเออีซีหนุนยอดขาย ชี้คนจีนนิยมมาท่องเที่ยว พร้อมเปิดโปรเจกต์แนวราบย่านลำลูกกา และพุทธมณฑล เผยมีที่ดินใน จ.อุดรฯ รอพัฒนาที่อยู่อาศัย แย้มปีนี้ได้เห็นกำไรโตก้าวกระโดด
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า ในปี 2557 มีแผนลงทุนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่าประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท โดยมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมด แบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการ แยกเป็นประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ เฟสต่อเนื่อง ในโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ ลำลูกกา บนพื้นที่ 40 ไร่
ส่วนอีกโครงการอยู่ย่านพุทธมณฑล สาย 5 บนพื้นที่ 40-50 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
และยังมีโครงการคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ ใน จ.เชียงใหม่ ภายใต้ชื่อ DIAMANT ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่เศษ เป็นอาคาร สูง 5 ชั้น จำนวน 3 อาคาร อาคารละ 70 ยูนิต รวม 227 ยูนิต ขนาด 34-56 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา 1.79-3 ล้านบาทขึ้นไป รวมมูลค่า 530 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส2
“เดิมแผนการพัฒนาโครงการในปีนี้จะพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 5 โครงการ แต่ด้วยการเมืองที่ร้อนแรง ผู้บริโภคอาจจะไม่มีอารมณ์ซื้อบ้าน จึงปรับแผนลดลงเหลือ 3 โครงการ และนับเป็นครั้งแรกที่เราเข้าไปทำตลาดที่อยู่อาศัยใน จ.เชียงใหม่ ถือเป็นคอนโดฯ โครงการที่ 2 นับจากที่เคยพัฒนาโครงการแรกที่พัทยา และประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของการกระจายทำเล ลดความเสี่ยง เราจะพยายามสร้างไข่ไว้ในหลายตะกร้า เราไม่ทิ้งไข่ไว้ในตะกร้าเดียว เหมือนที่ผ่านมา เราจะอยู่โซนรังสิต ลำลูกกา แต่ตอนนี้ขยายไปทุกทำเล ขยายไปหัวเมืองเศรษฐกิจที่เติบโต”
โดยสาเหตุที่สนใจเข้าไปพัฒนาโครงการใน จ.เชียงใหม่ เพราะมองว่ามีอัตราการเติบโตที่สูงเช่นเดียวกับที่พัทยา และนับวันจะบูมมากขึ้น ซึ่งข้อมูลในไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา ระบุว่า ซัปพลายคอนโดฯ ใน จ.เชียงใหม่ ที่พรีเซลมี 1,000 ยูนิต และมีการดูดซับออกไปจนเหลือประมาณ 300 ยูนิต อีกทั้งนักท่องเที่ยว และนักลงทุนชาวจีนเข้ามาที่เชียงใหม่เป็นจำนวนมาก และในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จะทำให้โครงการของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เชื่อว่าหากมีการปล่อยเช่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 12,000-14,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ เมื่อต้นปี 56 บริษัทฯ ได้เข้าไปซื้อที่ดินที่บริเวณถนนวงแหวน จ.อุดรธานี จำนวน 70 ไร่ๆ ละประมาณ 4-5 ล้านบาท มีแผนจะทำบ้านเดี่ยวในปีนี้ แต่ด้วยการแข่งขันที่สูงจึงเลื่อนแผนออกไปก่อน ปัจจุบันราคาปรับขึ้นสูงถึงไร่ละ 6 ล้านบาท
นายสมเชาว์ กล่าวถึงเป้าการเติบโตในปี 57 ว่า จะมียอดขายประมาณ 3,200 ล้านบาท และสามารถรับรู้รายได้ 1,800 ล้านบาท ปัจจุบันมีแบ็กล็อก ประมาณ 1,000 ล้านบาท และคาดว่ากำไรในปีนี้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะจะมียอดโอนคอนโดฯ จากโครงการในพัทยาจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการรับรู้รายได้จากคอนโดฯ อยู่ที่ 20% และแนวราบ 80%
อนึ่ง ในปี 56 บริษัทมีรายได้ 1,681.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,573.82 ล้านบาท ในปี 55 หรือเพิ่มขึ้น 6.83% ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 105.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.97% หนี้สินต่อทุน (D/E) ณ 31 ธ.ค.56 อยู่ที่ 0.94