xs
xsm
sm
md
lg

ค่าก่อสร้างพุ่ง 10% จับตาปี 57 ขยับ 5% หวั่นห้องชุดไม่ผ่าน EIA ขายกระดาษรับต้นทุนใหม่ไม่ไหว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอ็มบีเค” ระบุแบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายย่อยฉุดอสังหาฯ ชะลอตัว หลังเศรษฐกิจหดตัวกดกำลังซื้อลูกค้าตลาดล่าง 1-2 ล้านบาทหด พบยอดปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าตลาด 1-2 ล้าน ในภูเก็ตพุ่ง 20% แจงปี 56 ค่าก่อสร้างขยับไปแล้ว 10% จับตาค่าก่อสร้างปี 57 พุ่งอีก 5% หวั่นห้องชุดยังไม่ผ่าน EIA โครงการขายกระดาษยังไม่เริ่มก่อสร้างรับต้นทุนใหม่ไม่ไหว เผยแผนปี 57 คอนโดฯ ไฮไรซ์ 2 โครงการย่านพระราม 9-สุขุมวิท พร้อมจัดสรรที่ดินเปล่าริมสนามกอล์ฟริเวอร์เดล 60-70 ไร่ เล็งเปิดตัววิลลา 15 ล้านบน พื้นที่ 10 ไร่ ในภูเก็ต คาดปี 56 ยอดขาย 2,000 ล้านบาท เหตุได้แรงงานหนุนจากยอดขายคอนโดฯ เดอะคิวนน์รัชดาฯ

นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่ได้แบ่งกลุ่มธุรกิจในเครือออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มศูนย์การค้า กลุ่มข้าว กลุ่มสนามกอล์ฟ กลุ่มการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มโรงแรม กลุ่มธุรกิจที่สนับสนุนบริษัทในเครือ และอื่นๆ แล้ว บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท แปลน แอสเตท จำกัด ในสัดส่วน 100% จากธนาคารธนชาต ซึ่งมีความชำนาญ และประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการธุรกิจอสังหาฯ โดยมีนโยบายในการมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่ต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่ม เอ็มบีเค มีรายได้รวมประมาณ 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มห้างสรรพสินค้า 30% กลุ่มข่าว 30% กลุ่มโรงแรม 15-20% กลุ่มการเงิน 10% กลุ่มอสังหาฯ 8% ส่วนที่เหลือมาจากกลุ่มอื่นๆ โดยหลังจากนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายว่าการลงทุนต่อเนื่องในภาคอสังหาริมทรัพย์จะช่วยผลักดันให้สัดส่วนรายได้ในกลุ่มอสังหาฯ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12% ของรายได้รวมในปี 2558 ทั้งนี้ การขยายการลงทุนในกลุ่มอสังหาฯ ส่งผลรายได้ของกลุ่มอสังหาฯ ขยายตัวเพิ่มจากเดิมถึง 5%

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าแม้ในช่วงครึ่งหลังของปี 56 นี้เศรษฐกิจของประเทศจะมีการหดตัวลงต่ำกว่าประมาณการในช่วงต้นปี ซึ่งส่งผลต่อกำลังการซื้อของลูกค้าในตลาดที่อยู่อาศัย ทำให้ภาคธุรกิจอสังหาฯ ชะลอตัวลงนั้น ไม่ได้มีผลทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ในทุกๆ เซกเมนต์ชะลอตัวลงทั้งหมด แต่อาจจะมีการชะลอตัวลงในบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตลาดล่าง เนื่องจากที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอด สังเกตได้จากในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดจะมีการหดตัวแต่ก็ยังมีการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยในเซกเมนต์อื่นๆ ที่หลากหลายออกไป ซึ่งเป็นไปตามความต้องการที่มีอยู่ในตลาด

นายหัชพงศ์ โภคัย กรรมการผู้จัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า การหดตัวของเศรษฐกิจมีผลให้กำลังซื้อลูกค้าในตลาดล่างลดลง ขณะเดียวกัน นโยบายการเข้มงวดการการปล่อยสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยรายย่อยของสถาบันการเงินก็ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของตลาดอสังหาฯ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ราคา 1 ล้านบาทต้นๆ

“กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้บางครั้งไม่ใช่กลุ่มที่ไม่มีเงิน แต่เป็นกลุ่มที่ไม่มีสเตทเมนต์ หรือไม่มีประวัติการเงิน เช่น กลุ่มพ่อค้าแม้ค้า หรืออาชีพอิสระ นอกจากนี้ กลุ่มที่มีประวัติเครดิตบูโรก็เป็นอีกกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อ ซึ่งจากการทำตลาดในภูเก็ตในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีการปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าสูง 20-30% ซึ่งโดยมากเป็นกลุ่มลูกค้าตลาดล่างที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคา 1-2 ล้านบาท ทำให้บางโครงการที่มียอดจองซื้อแล้วต้องนำที่อยู่อาศัยกลับมารีเซลใหม่”

ทั้งนี้ ปัญหาที่ตามมาจากการปฏิเสธสินเชื่อคือการปรับขึ้นราคาขายตามต้นทุนก่อสร้างใหม่ ทำให้ยอดขายในบางโครงการชะลอตัวลง โดยเฉพาะในโครงการห้องชุดที่เปิดจองแล้วแต่ยังไม่ได้ก่อสร้าง และโครงการที่ยังไม่ได้ใบอนุญาตการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งนับจากต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ต้นทุนค่าก่อสร้างทยอยปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 10% และในปี 2557 ค่าว่าค่าก่อสร้างจะปรับตัวขึ้นอีกกว่า 5% ขึ้นกับค่าแรงในปีหน้าว่าจะมีการปรับตัวมากน้อยอย่างไร ปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทต้องดำเนินการขอ EIA ให้ผ่านก่อน จึงเริ่มเปิดขายโครงการและงานก่อสร้าง

นายหัชพงศ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายในการดำเนินธุรกิจของบริษัท นับจากนี้จะเน้นการนำที่ดินสะสมของกรุ๊ป และกระแสเงินสดของกลุ่มมาใช้ในการพัฒนาโครงการโดยไม่ใช้เงินกู้ในการลงทุนโครงการใหม่ โดยปัจจุบัน ทางกลุ่ม เอ็มบี เค มีที่ดินสะสมในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย ที่ดินในสนามกอล์ฟริเวอร์เดล ในย่านปทุมธานี 800 ไร่ โดยพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟแล้ว 400 ไร่ ส่วนที่เหลือ 400 ไร่ อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมว่าจะนำมาพัฒนาอย่างไร โดยในเบื้องต้นมีแผนจะนำที่ดินเปล่าติดสนามกอล์ฟ 60-70 ไร่ มาพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และแบ่งขายในราคา 45,000-60,000 บาทต่อตารางวา (ตร.ว.)ในปี2557

นอกจากนี้ ยังมีที่ดินดิบ จำนวน 5 ไร่ 200 ตร.ว.ใกล้กับโครงการเดอะไนท์ พระราม 9 ซึ่งมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ในปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทางด้านกฎหมาย และข้อบังคับผังเมือง และศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการ และมีที่ดินอีก 2 ไร่เศษ ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ในช่วงถนนสุขุมวิทย่านอ่อนนุช-แบร์ริ่ง ที่ซื้อเข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้ โดยมีแผนจะนำมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในปี 57 เช่นกัน

ส่วนที่ดินในต่างจังหวัดบริษัทมีที่ดินสะสมในภูเก็ต จำนวน 2,000 ไร่ โดยได้แบ่งพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟไป 2 แห่ง จำนวน 800 ไร่ ส่วนที่เหลือมีแผนจำนวนมาพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ อย่างไรก็ตาม ในปี 57 นี้บริษัทมีแผ่นจะนำที่ดินดิบ จำนวน 10 ไร่ ในภูเก็ตมาพัฒนาโครงการวิลลา ราคาขายเริ่มต้น 15 ล้านบาท จำนวน 1 แปลง

สำหรับปี 56 นี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดขายรวมที่ 2,000 ล้านบาท และมีรายได้รับรู้ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ ในแต่ละปีบริษัทจะมียอดขายเฉลี่ยประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี แต่ในปีนี้จะมียอดขายสูงกว่าประมาณการเนื่องจากมียอดขายจากโครงการเดอะควินน์ รัชดาภิเษกเข้ามาเสริม โดยโครงการเดอะควินน์ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมราคาเริ่มต้น 3.4-6.5 ล้านบาท จำนวน 729 ยูนิต มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขาย 70% หรือประมาณ 500 กว่ายูนิต และสามารถปิดการขายได้ในปี 57 และโอนห้องให้ลูกค้าได้ในไตรมาส 3 ปี 58 นอกจากนี้ ยังจะมียอดขายจากโครงการบ้านสบายภูเก็ต โครงการ 2 มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการบ้านอินดี้ภูเก็ต ซึ่งอยู่ระหว่างการเปิดขายโครงการที่ 2 เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น