ข่าวในประเทศ - สมาคมฯ รถมือสอง เรียกร้องภาครัฐขอมีส่วนร่วมในการออกมาตรการต่างๆ ที่มีผลกระทบ สอนมวยต้องคำนึงถึงประชาชนและธุรกิจด้วย ประกาศไม่เห็นด้วยแนวคิดห้ามรถอายุ 7 หรือ 10 ปี ห้ามวิ่งในกรุงเทพฯ เพราะมีรถเป็นล้านคันเดือดร้อน พร้อมขอสนับสนุนด้านภาษีส่งออกรถใช้แล้วไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เผยสัญญาณตลาดไตรมาสสุดท้ายเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ประกาศผนึกกำลังสถาบันการเงินอัดแคมเปญ
กิตติธรา รวมธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว หรือรถมือสอง เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโครงการรถคันแรกและการจัดแคมเปญของบริษัท จนส่งผลให้ยอดขายลดลงกว่า 20% ขณะที่มูลค่ารถลดลงจากเดิมมากถึง 25% แต่จากทิศทางตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ มีสัญญาณเริ่มปรับตัวกลับมาดีขึ้น และเพื่อรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนด้วย
“ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนช่วยในเรื่องของภาษีการส่งออก เพราะมีตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังมีความต้องการถมือสองจำนวนมาก ขณะเดียวกันภาครัฐควรคำนึงถึงผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรืออ้อม อย่างแนวคิดมาตรการห้ามรถอายุ 7 หรือ 10 ปีขึ้นไปห้ามวิ่งในกรุงเทพฯ ทางสมาคมฯ รถมือสองไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะมีรถจำนวนเป็นล้านคันที่จะได้รับความเดือดร้อน แม้ตามข่าวล่าสุดจะระงับเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่อนาคตก่อนที่จะออกนโยบายหรือมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับรถใช้แล้วออกมา ควรศึกษาให้รอบคอบ และต้องมีตัวแทนของสมาคมฯ หรือผู้ประกอบการเข้าไปร่วมแสดงผลดีหรือเสียด้วย”
ในส่วนของผู้ประกอบรถใช้แล้วเอง จะต้องมีการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งการก่อตั้งสมาคมฯ รถใช้แล้ว เพื่อที่จะสร้างธุรกิจให้เป็นมาตรฐานหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการและคุณภาพ โดยปัจจุบันก่อตั้งมาประมาณกว่า 1 เดือน มีสมาชิกเกือบ 300 ราย และมีที่แสดงความสนใจเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก จากจำนวนผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ
“ในสถานการณ์ตลาดผันผวนในปัจจุบัน ผู้ประกอบการต้องปรับวิธีคิดในการดำเนินธุรกิจใหม่ อย่างเรื่องการบริหารสต็อกรถต้องไม่มากเกินไป หรือกลุ่มรถเล็กที่มีปัญหาจากรถคันแรก หรือแคมเปญรถใหม่ กลุ่มนี้ต้องพยายามหมุนรถเข้า-ออกให้เร็ว แต่ภาพรวมตลาดขณะนี้เริ่มดีขึ้น มีการปรับราคาใหม่อย่างสมดุล ไม่ใช่ซื้อมาแพงขายออกถูกเหมือนช่วงที่ผ่านมา และยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้เริ่มกลับมาบวก 5% แม้ภาพรวมทั้งปีอาจจะยังติดลบอยู่ และเชื่อมั่นในช่วงต้นปีหน้าจะขยับเป็น 10% เมื่อสถาบันการเงินจะเข้ามาสนับสนุนร่วมจัดแคมเปญกระตุ้นตลาด” กิตติธรา กล่าว
วนกานต์ กาญจนศูนย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธนาคาเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า ตลาดเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่น่าจะรุนแรงอย่างที่เป็นข่าว หากดูยอดเช่าซื้อของรถใหม่ป้ายแดงและรถใช้แล้วของธนาคารเกียรตินาคิน ยังมีอย่างต่อเนื่องในสัดส่วนใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่าเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน อีกทั้งยอดคงค้างของสินเชื่อเช่าซื้อทั้งพอร์ตในครึ่งแรกของปีนี้ ยังเติบโตขึ้น 5% และตัวเลขเอ็นพีแอลของธนาคารฯ ไม่ได้มีนัยสำคัญ จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อสิ้นปี 2555 อยู่ที่ 3.3% และเมื่อสิ้นเดือนกลางปีนี้ใกล้เคียงกัน 3.4%
อนุชาติ ดีประเสิรฐ ผู้อำนวยการอาวุโส การตลาดเช่าซื้อและสินเชื่อ Auto Dealer ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า สถานบันการเงินยังคงสนับสนุนธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว เพราะถือเป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ต้องช่วยกันสนับสนุนให้ผ่านช่วงภาวะชะลอตัวของตลาด โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ถึงต้นปี 2557 สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ราคาต้นทุนขายรถยนต์ใช้แล้วเริ่มปรับตัวดีขึ้น ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และการสนับสนุนการให้สินเชื่อจะกลับมาโดยเร็ว
กิตติธรา รวมธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว หรือรถมือสอง เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโครงการรถคันแรกและการจัดแคมเปญของบริษัท จนส่งผลให้ยอดขายลดลงกว่า 20% ขณะที่มูลค่ารถลดลงจากเดิมมากถึง 25% แต่จากทิศทางตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ มีสัญญาณเริ่มปรับตัวกลับมาดีขึ้น และเพื่อรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนด้วย
“ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนช่วยในเรื่องของภาษีการส่งออก เพราะมีตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังมีความต้องการถมือสองจำนวนมาก ขณะเดียวกันภาครัฐควรคำนึงถึงผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรืออ้อม อย่างแนวคิดมาตรการห้ามรถอายุ 7 หรือ 10 ปีขึ้นไปห้ามวิ่งในกรุงเทพฯ ทางสมาคมฯ รถมือสองไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะมีรถจำนวนเป็นล้านคันที่จะได้รับความเดือดร้อน แม้ตามข่าวล่าสุดจะระงับเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่อนาคตก่อนที่จะออกนโยบายหรือมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับรถใช้แล้วออกมา ควรศึกษาให้รอบคอบ และต้องมีตัวแทนของสมาคมฯ หรือผู้ประกอบการเข้าไปร่วมแสดงผลดีหรือเสียด้วย”
ในส่วนของผู้ประกอบรถใช้แล้วเอง จะต้องมีการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งการก่อตั้งสมาคมฯ รถใช้แล้ว เพื่อที่จะสร้างธุรกิจให้เป็นมาตรฐานหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการและคุณภาพ โดยปัจจุบันก่อตั้งมาประมาณกว่า 1 เดือน มีสมาชิกเกือบ 300 ราย และมีที่แสดงความสนใจเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก จากจำนวนผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ
“ในสถานการณ์ตลาดผันผวนในปัจจุบัน ผู้ประกอบการต้องปรับวิธีคิดในการดำเนินธุรกิจใหม่ อย่างเรื่องการบริหารสต็อกรถต้องไม่มากเกินไป หรือกลุ่มรถเล็กที่มีปัญหาจากรถคันแรก หรือแคมเปญรถใหม่ กลุ่มนี้ต้องพยายามหมุนรถเข้า-ออกให้เร็ว แต่ภาพรวมตลาดขณะนี้เริ่มดีขึ้น มีการปรับราคาใหม่อย่างสมดุล ไม่ใช่ซื้อมาแพงขายออกถูกเหมือนช่วงที่ผ่านมา และยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้เริ่มกลับมาบวก 5% แม้ภาพรวมทั้งปีอาจจะยังติดลบอยู่ และเชื่อมั่นในช่วงต้นปีหน้าจะขยับเป็น 10% เมื่อสถาบันการเงินจะเข้ามาสนับสนุนร่วมจัดแคมเปญกระตุ้นตลาด” กิตติธรา กล่าว
วนกานต์ กาญจนศูนย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธนาคาเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า ตลาดเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่น่าจะรุนแรงอย่างที่เป็นข่าว หากดูยอดเช่าซื้อของรถใหม่ป้ายแดงและรถใช้แล้วของธนาคารเกียรตินาคิน ยังมีอย่างต่อเนื่องในสัดส่วนใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่าเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน อีกทั้งยอดคงค้างของสินเชื่อเช่าซื้อทั้งพอร์ตในครึ่งแรกของปีนี้ ยังเติบโตขึ้น 5% และตัวเลขเอ็นพีแอลของธนาคารฯ ไม่ได้มีนัยสำคัญ จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อสิ้นปี 2555 อยู่ที่ 3.3% และเมื่อสิ้นเดือนกลางปีนี้ใกล้เคียงกัน 3.4%
อนุชาติ ดีประเสิรฐ ผู้อำนวยการอาวุโส การตลาดเช่าซื้อและสินเชื่อ Auto Dealer ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า สถานบันการเงินยังคงสนับสนุนธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว เพราะถือเป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ต้องช่วยกันสนับสนุนให้ผ่านช่วงภาวะชะลอตัวของตลาด โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ถึงต้นปี 2557 สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ราคาต้นทุนขายรถยนต์ใช้แล้วเริ่มปรับตัวดีขึ้น ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และการสนับสนุนการให้สินเชื่อจะกลับมาโดยเร็ว