“เพอร์เฟคฯ” แจงปี 57 เน้น 3 นโยบายหลักดันกำไรขั้นต้น ผลักดันยอดขายตามเป้า บริหารจักการสต๊อก งานก่อสร้างสอดคล้องยอดขาย และลดต้นทุน หลังปี 56 เร่งบิวต์สต๊อกรับดีมานด์ แต่ถูกการเมืองช็อก ตลาดชะงักดีมานด์หาย ส่งผลสต๊อกบ้านติดมือเพียบ แจงปี 57 เดินหน้าเปิดตัว 20 โครงการใหม่ มูลค่า 32,185 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 16,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 15,000 ล้านบาท
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท เพอร์เฟค พร็อเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (PF) หรือเพอร์เฟคฯ เปิดเผยว่า ในปี 2557 นี้ บริษัทมีนโยบายในการดำเนินงานเน้นหนักในเรื่องการบริหารและจัดการต้นทุนเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานมากขึ้น โดยแนวทางการปรับเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทจะเน้นใน 3 ด้านหลัก คือ 1.การผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าประมาณการยอดขาย และรายได้ของปี 2557 2.บริหารจัดการสต๊อกงาน และงานก่อสร้างให้สอดคล้องกับยอดขาย และ 3.เน้นการลดต้นทุนการก่อสร้าง และค่าใช้จ่าย
โดยในการควบคุมต้นทุนงานก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายนั้น บริษัทฯ จะนำระบบการตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้าง และมาตรฐาน ISO 9100 เข้ามาช่วยเพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดปัญหางานก่อสร้างผิดพลาด และช่วยลดต้นทุนการซ่อม หรือปรับงานก่อสร้างให้ได้ตามมาตรฐานตามสเปกที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียค่ายใช้จ่ายลงไปได้ และทำให้อัตรากำไรของบริษัทในปีนี้ขยับสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มสัดส่วนการนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเข้ามาใช้ในงานก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันงานก่อสร้างโครงการเพอร์เฟคเพลส ได้นำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเข้ามาใช้แล้วกว่า 50% และจะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนโครงการเพอร์เฟคพาร์ค และโครงการโมดิช ปัจจุบันใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปแล้ว 100%
“ช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา ทุกๆ บริษัทสร้างสต๊อกบ้านออกมารองรับความต้องการ และการขยายตัวของดีมานด์ในตลาดอย่างมาก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังมากำลังซื้อเริ่มชะลอตัว จนถึงในช่วงปลายปีตลาดแทบหยุดชะงักมาจนถึงขณะนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ทุกรายมีสต๊อกเหลือขายติดมืออยู่จำนวนมาก รวมถึงเพอร์เฟคฯ เองด้วย ทำให้ในปีนี้บริษัทต้องมีการบริหารสต๊อกงานก่อสร้างและการขายให้สอดคล้องกันเพื่อลดต้นทุนส่วนเกิน และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ บริษัทจะมีการเร่งระบายสต๊อกออกมาตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นไป”
นายวงศกรณ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 20 โครงการ มูลค่า 23,185 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกจะเปิดตัวโครงการในเฟสต่อเนื่องโครงการเพอร์เฟคมาสเตอร์พีช รัตนาธิเบศร์ โครงการเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ไตรมาสที่ 2 เปิดตัวโครงการเพอร์เฟค เพลส เชียงใหม่ ราคา 4-8 ล้านบาท พื้นที่ 40 ไร่ โครงการบ้านตากอากาศ เขาใหญ่ ราคา 15 ล้านบาท บนพื้นที่ 180 ไร่ และคอนโดมิเนียม แบรนด์ เบราคลอส ราคา 4 ล้านบาท จำนวน 320 ยูนิต บนเนื้องที่ 10 ไร่
ส่วนในไตรมาสที่ 3 จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมในแบรนด์ ไอคอน 1 โครงการ แบรนด์ยูนิลอฟ 2 โครงการ ที่เหลือจะเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ในย่านแนวรถไฟฟ้า
นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เพอร์เฟคเพลส ราชพฤกษ และเพอร์เฟคพาร์ค ร่มเกล้า สำหรับไตรมาสสุดท้าย จะเป็นการเปิดตัวโครงการแนวราบ จำนวน 6 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกแบรนด์ในการพัฒนา
ทั้งนี้ ในปี 2557 นี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมที่ 16,000 ล้านบาท และมีรายได้รับรู้ 15,000 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมีสต๊อกสินค้ารอรับรู้รายได้ในมือในปีนี้แล้ว 3,600 ล้านบาท แบ่งเป็นสต๊อกรอรับรู้จากกลุ่มบ้านเดี่ยว 600 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3,000 ล้านบาท หรือต้องมีการเร่งรับรู้รายได้ในปีนี้เพิ่มอีก 11,400 ล้านบาท ก็จะมีรายได้เป็นไปตามเป้าประมาณการรายได้รับรู้ได้ตามแผน ส่วนในด้านยอดขายนั้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายแล้ว 1,700 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทเตรียมจัดงานพรีเซลส์ บ้านพร้อมอยู่ในโครงการมาสเตอร์พีช รังสิต ซึ่งเป็นบ้านคอลเลกชันลักชัวรี ราคาเริ่มต้น 35-55ล้านบาท ในวันที่ 10 มี.ค.2557 นี้ โดยในปีนี้บ้านในแบรนด์มาสเตอร์พีช จะมีการเปิดตัวเฟสใหม่เพิ่มรวม 4 เฟส ใน 4 โครงการ คือ มาสเตอร์พีช รามคำแหง มาสเตอร์พีช ร่มเกล้า มาสเตอร์พีช รัตนาธิเบศร์ และมาสเตอร์พีช รังสิต โดยบริษัทประมาณการว่าบ้านในกลุ่มแบรนด์มาสเตอร์พีช จะมียอดขายทั้งปี 1,800 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งรายได้รวมที่ 10-11%
