หุ้นไทยคึกรับข่าวเตรียมเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่างชาติปลดล็อกฯ ลุยซื้อ

ฟันโฟลว์ไหลเข้าตลาดฯ ต่างชาติซื้อหนักเกิน 1 พันล้าน เผยหลายกองทุนปลดเงื่อนไขการลงทุน เก็งกำไรข่าวเตรียมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โบรกฯ เผยนักลงทุนต่างชาติมองการเมืองไทยน่าจะจบแล้ว หลังจากที่มีการยอมถอย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง แนวโน้มพรุ่งนี้อาจปรับฐาน และอาจมีแรงเทขายทำกำไร

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 มี.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,339.21 จุด เพิ่มขึ้น 13.88 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.05% มูลค่าการซื้อขาย 40,349.46 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ตลาดค่อนข้างคึกคัก โดยมีกระแสข่าวเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าเก็งกำไร

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภทมีดังนี้ นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 3,401.25 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 624.06 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 1,147.34 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ 3,924.53 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นวันนี้คึกคักเนื่องจากมีการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเกิดจากความผ่อนคลายทางการเมือง และแนวโน้มการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิก ซึ่งทำให้กองทุนต่างประเทศหลายกองปลดล็อกเงื่อนไขการลงทุน

“ส่วนใหญ่เงื่อนไขการลงทุนของกองทุนฝรั่งจะมีข้อห้ามอันหนึ่งที่ระบุไว้ชัดว่า จะไม่ลงทุนในประเทศที่มีความเสี่ยงทางการเมือง โดยยึดการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยรัฐบาล ซึ่งหากยกเลิกก็จะทำให้เม็ดเงินที่ไหลออกเฉพาะ พ.ร.ก.เริ่มประกาศ ก็จะทำให้เงินไหลกลับมาเข้าถ่วงน้ำหนักการลงทุนอีกครั้งหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติมองว่าการเมืองไทยน่าจะจบแล้ว หลังจากที่มีการยอมถอย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (4 มี.ค.) คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คือ ดัชนีฯ อาจจะมีการคงที่ หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่แรงเช่นวันนี้ เพราะหุ้นกลุ่มต่างๆ ที่ปรับตัวขึ้นก็ตอบรับกับปัจจัยการเมืองที่ผ่อนคลายไปแล้ว

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องติดตามจึงยังคงเกี่ยวข้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อิงกับต่างประเทศ เช่น ราคาน้ำมันที่ราคาพุ่งขึ้นในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา จากกรณีปัญหาการเมืองระหว่างยูเครน และรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ในประเทศ

ส่วนปัจจัยภายในประเทศหลังการประชุม ครม.อนุมัติจัดสรรงบประมาณกลางจ่ายให้แก่ชาวนาซึ่งยังไม่ได้รับภายในสัปดาห์นี้ เพราะต้องรอการอนุมัติจาก กกต. ยังเป็นปัญหาเรื้อรังอยู่ ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายหุ้นที่จ่ายปันผลดีซึ่งจะมีการจ่ายในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เลี่ยงการไล่ราคาหุ้น เพราะวันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นมากแล้ว ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,330-1,325 จุด และแนวต้านที่ 1,350 จุด