หุ้นปิดลบ 5 จุด นักวิเคราะห์ยอมรับกลุ่มชินโดนเทขายหนัก หลังแกนนำ กปปส. ประกาศจะยกระดับการชุมนุม โดยเน้นพุ่งเป้าโจมตีธุรกิจของตระกูลชินวัตรทั้งหมด พร้อมระบุราคาหุ้นอาจจะอ่อนลง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับระดับรุนแรง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,321.00 จุด ลดลง 5.21 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.39% มูลค่าการซื้อขาย 30,793.32 ล้านบาท โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มชินวัตรปรับตัวลงยกแผง
ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 765 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 1.3 พันล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 703 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 121 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ในช่วงบ่ายที่ดัชนีปรับลดลงแรง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเครือชินวัตร หลังจากที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศจะยกระดับการชุมนุมพุ่งเป้าโจมตีธุรกิจของตระกูลชินวัตรทั้งหมด โดยเฉพาะ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (INTUCH) และ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) โดยเตือนให้นักลงทุนรีบขายหุ้นบริษัทเหล่านี้ออกให้หมด
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวหุ้นในเครือกลุ่มชินวันนี้ ทั้งหมดมีการปรับลงทั้งแผง ยกเว้น บริษัท ไทยคม (THCOM) ที่บวก 0.6% บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ลดลง 0.9% บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น (INTUCH) ลดง 1.34% บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ลดลงหนักสุดถึง 3.57% บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในภาวะของการแกว่งตัวในกรอบไม่กว้างมากนัก เพราะปัจจัยการเมืองยังมีอิทธิพลกระทบช่วงสั้น
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่าหลังทราบผลตัดสินของศาลเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นประเด็นการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับนักลงทุนในตลาดว่าจะตอบรับในด้านไหน แต่ตลาดไม่น่าจะปรับลงมาก เพราะนักลงทุนให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานมากกว่า sentiment แต่อาจมีบางกลุ่มเล่นเก็งกำไรตามข่าว หากออกมาทางบวกก็ซื้อและข่าวลบก็ขาย
“แม้ข่าวในภาคบ่ายทำให้มีการขายหุ้นกลุ่มชินฯ ราคาหุ้นอาจจะอ่อนลง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับระดับรุนแรง ซึ่งถ้าเป็นลักษณะของการใช้ sentiment อย่างเดียว ราคาหุ้นคงปรับลงไปมากกว่านี้มาก”
กลยุทธ์ แนะนำให้ซื้อจังหวะในช่วงที่กำลังมีความวุ่นวาย หรือดูจะมีความรุนแรงเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นเพื่อการลงทุน ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นกลุ่มนักเก็งกำไรให้ฉวยโอกาสในจังหวะที่หุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน โดยเฉพาะ ADVANC ยิ่งสถานการณ์ที่มีการชุมนุมอย่างนี้ความเป็นไปได้สูงที่การสื่อสารทางโทรศัพท์จะมีมากกว่าทางอื่น
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,961.26 ล้านบาท ปิดที่ 217.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,784.01 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,625.20 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,614.04 ล้านบาท ปิดที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,545.65 ล้านบาท ปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
