“ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม” ประเมินภาพรวมบริษัทฯ ปี 57 เติบโตขึ้นจากทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว หนุนการลงทุนภาคเอกชน แถมอุตฯ ยานยนต์เข้าสู่ช่วงปกติ ล่าสุดประกาศผลงานปี 56 มีกำไร 6.67 ลบ. ลดลงจากผลกระทบปี 56 ที่ผ่านมา ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ บวกปัญหาการเมืองคลุมเครือ บิ๊กบอส TMC “สุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข” และ “ธีรภาพ กมลมงคลสุข” มั่นใจจะเดินหน้าสร้าง TMC เติบโตแข็งแกร่ง แถมบอร์ดบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท กำหนดจ่าย 23 พ.ค.57
นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการผลิตเครื่องจักรกลระบบไฮดรอลิก เครื่องปั๊มขึ้นรูปโลหะวัสดุแบบต่างๆ รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2557 จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การบริโภค และการลงทุนจากภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ โดยเฉพาะการปรับเข้าสู่สมดุลของอุตสาหกรรมรถยนต์ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปี 2556 อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของประเทศไทยที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ จึงต้องประเมิน และวิเคราะห์สถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ ปรับกลุยทธ์ให้มีความสอดคล้อง และมุ่งหน้าบริหารจัดการบริหารต้นทุนต่อหน่วยให้คุ้มค่าที่สุด บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม และพม่า ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับ SV ก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหะสถาน จำกัด เป็นผู้นำธุรกิจก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหสถานในประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศแรกในการรุกตลาด AEC จึงตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็นร้อยละ 10-15 เพื่อเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.67 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 136.48 ล้านบาท ลดลง 129.81 ล้านบาท เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกการฟื้นตัวอย่างล่าช้า เศรษฐกิจที่เกิดการชะลอตัว รวมทั้งปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่มีความแน่ชัด อีกทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท โดยจะนำเสนอผ่านที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 ต่อไป กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2557
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2556 ที่ผ่านมา ติดลบจากปีก่อน ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการยานยนต์ชะลอการลงทุน เลื่อนการผลิตออกไป ทำให้รายได้บริษัทฯ ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความเชื่อมั่น และมั่นใจว่าจากประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานกว่า 40 ปี ในด้านการเป็นผู้นำเรื่องระบบไฮดรอลิก จะเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เติบโต แข็งแกร่งในอนาคต” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ด้านนายธีรภาพ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงความเป็นผู้นำในเรื่องการผลิต และจำหน่ายเครื่องจักรระบบไฮดรอลิก โดยเฉพาะความสามารถในการผลิตเครื่องเพรสขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ คือ ลูกค้าของเราที่อยู่ในระดับแนวหน้าของโลกอย่างเช่น Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi และ Ford บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดในการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการต่อกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เป็นการกระจายความเสี่ยงในการพึ่งพิงตลาดยานยนต์เพียงอย่างเดียว บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า โดยการแต่งโบรกเกอร์ และดีลเลอร์ตามจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก อุดรธานี นครปฐม สุราษฎร์ธานี และสงขลา เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของแผนยุทธศาสตร์ เป็นการเตรียมความพร้อมรุกตลาด AEC ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเวียดนาม พม่า หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดตั้ง TMC-LAO
“บริษัทฯ มีโชว์รูมอยู่ในจังหวัดชลบุรี และหาดใหญ่ เพื่อให้ง่ายต่อการกระจายสินค้าไปสู่ลูกค้า การวางกลยุทธ์ของเรา คือ เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการแต่งตั้งโบรกเกอร์ และดีลเลอร์ นอกจากนี้ บริษัทฯ หวังสร้างโอกาสทางการตลาดจากการเยี่ยมเยียนลูกค้า รายเดิม และรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ในการนำเสนอสินค้าเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกค้าที่ทางบริษัทฯ ที่ได้รับออเดอร์อยู่แล้วนั้น เพื่อเป็นสนับสนุนให้ยอดขายเพิ่มขึ้น บริษัทฯ มีสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม” นายธีรภาพกล่าว