xs
xsm
sm
md
lg

ปลอบใจตัวเองเวลาลงทุน...บล.โกลเบล็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากปีก่อน สถาบันวาณิชธนกิจหลายแห่งออกมาปรับมุมมองการคาดการณ์ราคาทองคำโลกลงถึง 3 ครั้ง 3 ครา แถมบางค่ายต้นปีที่ผ่านมามีการปรับลงซ้ำอีกรอบด้วย แต่หลังจากราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีมีการปรับขึ้นมาเรื่อยๆ มาอยู่เหนือ $1,318 ก็เริ่มมีสถาบันการเงินเจ้าแรกที่กระโดดออกมาเปลี่ยนมุมมองราคาทองคำในปีนี้เป็นบวกแล้ว

UBS AG ประกาศปรับมุมมองราคาทองคำในปีนี้ โดยให้เหตุผลว่าอุปสงค์จากการบริโภคหรือซื้อทองคำจากฝั่งเอเชียนั้นเติบโตขึ้นจากปีก่อนๆ (ทุกคนคงจำได้ว่าที่แรงซื้อมันโตก็เพราะราคาทองคำโลกมันปรับลงเยอะในปีที่ผ่านมา ทำให้คนในประเทศอย่าง อินเดีย จีน และไทยที่ชอบทองคำอยู่แล้วก็แห่มาซื้อกันเยอะนั่นเอง)
    
ทาง UBS ปรับมุมมองราคาทองคำ 3 เดือน จากที่เคยให้ว่าราคา $1,100 มาที่ $1,350 โดยมองว่าตลอดปี 2014 ราคาจะเฉลี่ยอยู่ที่ $1,300 จากที่เคยคาดไว้ว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ $1,200 เท่านั้น แต่ยังคงมุมมองปี 2015 อยู่ที่ $1,200 เช่นเดิม

พอเห็นการปรับมุมมองแบบนี้ หลายคนถึงกับส่ายหัว เพราะมาปรับมุมมองเป็นบวกหลังจากราคาทองคำโลกปรับขึ้นมาอยู่เหนือ $1,300 ไปแล้ว ตอนลงก็เหมือนกัน หลายสถาบันทยอยกันออกมาปรับเป้าลงหลังราคาปรับลงแรงตั้งแต่สงกรานต์ปีก่อน ไม่มีใครปรับลงก่อนที่ราคามันจะลงมาจริงเลย

ส่วนตัวผู้เขียนเองก็ชอบติดตามข่าวพวกนี้เป็นประจำ เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าสถาบันใหญ่ๆเค้าคิดอะไรกันบ้าง หลายครั้งก็ช่วยในการตัดสินใจได้ดี หลายครั้งก็ช่วยไม่ได้กลับทำให้แย่ก็มี เงินลงทุนของเรา การตัดสินใจก็ของเรา เพราะฉะนั้น เราควรจะคิดพิจารณาจากความเข้าใจของเราเองทั้งหมดจะดีที่สุด อย่าเชื่อใครแม้กระทั่งเค้าจะมีฉายาว่าเป็นเซียน กูรู เทพ อะไรก็แล้วแต่

การพิจารณาว่าทองคำควรซื้อหรือควรขาย คุณก็เริ่มจากการดูเหตุผลที่คุณจะซื้อทองคำก่อนว่า ทำไมถึงจะซื้อ จะซื้อเพราะจะลงทุนในทองคำระยะยาวเสมือนการออมเงิน จะซื้อเพราะคิดจะเก็งกำไรเนื่องจากราคามันปรับลงมาแรง จะซื้อเพราะอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเค้าบอกว่ามันจะขึ้นต่อ “พอคุณได้เหตุผลว่าทำไมถึงซื้อแล้ว คุณก็จะได้เหตุผลว่าเมื่อไหร่คุณจะขายเหมือนกัน” นี่คือสิ่งที่นักลงทุนควรทำ ถ้าซื้อเพราะจะออม เมื่อไหร่จะเลิกออม ก็ขายทิ้งซะ ถ้าซื้อเพราะมันลงมาแรง เมื่อมันดีดขึ้นมาก็ขายทิ้งซะ หรือถ้ามันลงต่อคุณก็ต้องมีจุดตัดขาดทุนแล้วก็ทำการขายทิ้งซะเหมือนกัน ถ้าซื้อเพราะเค้าบอกว่ามันจะขึ้น เมื่อเค้าบอกว่ามันจะลงก็ควรขายทิ้งซะ

คนส่วนใหญ่มักจะหาเหตุผลในการปลอบใจตัวเองและจะไม่ใช้เหตุผลในการขายจากเหตุผลที่ตัดสินใจซื้อแต่แรกมากำหนด เช่น ตอนแรกเห็นราคาลงมาแรง เลยเข้าไปซื้อเก็งกำไร แต่พอราคามันร่วงลงต่อ หลายคนเลือกที่จะบอกตัวเองว่า งั้นเปลี่ยนเป็นลงทุนระยะยาวหรือออมในทองคำแทน หรือประเภทซื้อตามนักวิเคราะห์ท่านนึงบอกว่ามันจะขึ้นมา แต่พอราคาไม่ขึ้น นักวิเคราะห์คนเดิมที่บอกมาว่าจะขึ้นเปลี่ยนมุมมองว่ามันจะลงแถมแนะนำให้ขายทิ้ง แต่คนที่ซื้อไปแล้วก็จะเปลี่ยนหันไปฟังหรือเชื่อนักวิเคราะห์คนอื่นที่ยังมองขึ้นอยู่ วิธีเหล่านี้คือการปลอบใจตัวเอง หรือเรียกง่ายๆว่า ลึกๆแล้วมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดไป จึงพยายามหาเหตุผลอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกว่ายังตัดสินใจถูกอยู่

การปลอบใจตัวเองมันทำให้เราผิดวินัยการลงทุนที่เราวางแผนวางเป้าไว้แต่แรก แล้วนักลงทุนนักเก็งกำไรส่วนใหญ่ที่ขาดทุน ก็มักจะมีพฤติกรรมแบบนี้ หากคุณตัดนิสัยแบบนี้ไม่ได้ คุณอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นนักเก็งกำไรทองคำ

สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น